ปีศาจ



ปีศาจ

 

                ภูต ผี ปีศาจ แตกต่างกัน ปีศาจ จะต่างจากสัมภเวสี และอสุรกาย พวกนี้เคยเป็นผู้มีพลังจิตแก่กล้า มีวิชาอาคม มีอิทธิฤทธิ์มาตั้งแต่ครั้งยังมีชีวิตอยู่ เมื่อตายไปก็มาปรากฏอยู่ในภพภูมิของเขาต่างหาก ทำไมไม่ต้องตกนรกรับกรรมที่ตนเองทำไว้ อันนี้ก็เคยเป็นเรื่องที่สงสัยมาก่อน ก็ต้องไปดูเวลาพวกนี้ตาย และถามเอาจากเทวฑูต ที่จะมาเอาวิญญาณ ได้ความว่าไม่กล้ายุ่งด้วย เพราะพวกนี้เก่งกว่า อันนี้ก็เรื่องนึง อีกเรื่องนึงคือภพภูมิที่พวกนี้อยู่นั้น มันก็มีความทุกข์ยากลำบากของมันเองอยู่แล้ว เป็นไปตามกฎของกรรม คือการกระทำของตนเองที่ได้เคยทำเอาไว้ พวกนี้ทำบุญไปก็ไม่ได้รับ จะว่าหิวโหยไหม มันก็ไม่มีอะไรจะกิน ถึงเอาเครื่องเซ่นไปสังเวย พวกนี้ก็ไม่กินอยู่ดี ดำรงคงอยู่อย่างนี้ไปเป็นเวลานานแสนนาน จนกว่าจะพ้นสภาพนี้แล้วไปเสวยกรรมต่อในนรก หรือไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วแต่บุพกรรมของตนเอง ปีศาจบางตนมีอายุยาวนานนับกัลป์ก็ยังมี จึงไม่ควรเรียกว่าผี อสุรกาย หรือสัมภเวสี ปีศาจพวกนี้เล่นด้วยยาก จะปะทะกันต้องอาศัยกำลังอภิญญา จะอาศัยสายสิญจน์ น้ำมนต์ เหรียญหลวงปู่หลวงพ่อมาช่วย พวกนี้ไม่แยแส จะแผ่เมตตาไปก็เฉยๆไม่รู้สึกรู้สา เป็นจำพวกที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยเลยจริงๆ

                น้าชาย มาบอกว่าเหตุที่พ่อตายเพราะไม่ยอมตั้งศาลพระภูมิตามที่ซินแสแนะนำ ตอนนี้ซินแสคนนี้กลับเมืองจีนไปแล้ว ตามตัวไม่ได้แล้ว คำแนะนำตอนนั้นคือให้หาศาลพระภูมิไม้ มาตั้งข้างๆหิ้งพระ บูชาให้ครบ100วัน แล้วจึงเอามาตั้งที่ริมรั้วบ้าน น้าชายยังบอกว่า มีคนที่คุณก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่ใช่เจ้าที่ มาคอยตามเก็บคนแถวนี้ จนตัวแกเองเป็นทั้งมะเร็งและไต ขนาดว่าเจ้าที่ยังสู้ไม่ได้ แล้วยิ่งเราไม่ตั้งศาลพระภูมิยิ่งทำให้เจ้าที่อ่อนกำลังลงไปอีก จึงคุ้มครองไม่ได้ เป็นเหตุให้ มีคนในบ้านป่วย และมีเหตุเภทภัยต่างๆนานา ขณะที่ทุกคนในบ้านมีจิตใจอ่อนแออันเนื่องมาจากเสียพ่อไปหมาดๆ แม่ป่วยหลายโรค น้องชายป่วยเข้าไอซียู ทำให้คนในบ้านได้ยินเรื่องพวกนี้แล้วเกิดอาการหวั่นไหวได้ เจ้านายใหญ่ท่านจึงมาบีบบังคับเอาคำตอบจากผมว่า คนที่คุณก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่คอยมาตามเก็บคนแถวนี้ มีอยู่จริงเหรอ? แล้วเป็นใคร? ดูให้หน่อยสิ? เป็นคำถามเชิงคำสั่ง ผมนี่ตอบได้ทันทีเลยโดยไม่ต้องใช้กำลังสมาธิครับ คนผู้นั้นก็คือ “ลอร์ดวัลเดอร์มอ” นั่นเอง....

ไม่ขำ....

ทำไงดี....ก็สมัยก่อนตอนโน้น เคยดูเมื่อนานมาแล้ว ไม่มีอะไรนี่นา มีลุงเจ้าที่เป็นชีปะขาว แกก็เดินตรวจตราไปๆมาๆ ละแวกนี้แหละ แล้วก็ไม่เคยเห็นมีอะไร แต่ว่าคำสั่งมาแล้วก็ต้องทำตาม คนอื่นสั่งเราจะไม่ยอม แต่เจ้านายใหญ่สั่งมาห้ามปฏิเสธ ขอบารมีพระท่านเป็นประธาน ครูบาอาจารย์ที่เคารพทุกๆองค์ กราบท่านเสร็จแล้วก็ไปหาลุงเจ้าที่ ลุงแกมายืนรอที่ถนนข้างรั้วบ้านแล้ว แกยกมือชี้นิ้วไปทางโรงน้ำแข็งน้าชาย ตรงศาลพระภูมิเดิม สีน้ำเงิน เหลียวมองไปก็เห็น ตัวอะไรไม่รู้เหมือนกัน ขนยาวรุงรังเหมือลิงอุรังอุตัง สูง ได้ 3-4 เมตร มีตาแดงก่ำทั้งสองข้าง มองไม่เห็นปาก จมูก หู เพราะมีลักษณะเหมือนขนดำๆปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง เดินเข้าไปดูอยู่ห่างๆ มีเจ้าที่ยืนด้านหลังเยื้องไปทางซ้ายมือ จะถามเจ้าที่ว่าตัวอะไร เจ้าที่ก็เหมือนจะไม่รู้เหมือนกัน ไอ้นี่แหละมั๊งที่น้าชายเล่าให้ฟังว่า คนที่คุณก็ไม่รู้ว่าใคร เท่าที่เห็นก็ไม่ใช่ยักษ์ ไม่ใช่บิ๊กฟุตตายแล้วกลายเป็นผี ไม่ใช่อสุรกาย มีส่วนที่น่าจะเรียกว่า ปีศาจ มากกว่า เพราะไม่สนใจพระ ไม่สนใจพรหมเทวดา ไม่กลัวน้ำมนต์ ไม่มีวันโกนวันพระ มีจิตใจอันโหดร้าย โนสน โนแคร์ใดๆทั้งสิ้น จะทำร้ายก็ได้ แต่ว่าจะทำดีนี้ไม่ได้ มีพลังจิตกล้าแข็ง มีวิชาอาคมอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ไปยืนตรงหน้าแล้วก็ถามว่า มาอยู่ตรงนี้ต้องการอะไร? เงียบ ถามอะไรไปไม่ตอบสักคำ มองหน้ามาเฉยๆ ก็เลยบอกไปว่า ต่างคนต่างอยู่ ข้าไม่ยุ่งกับแก แกก็อย่ามายุ่งกับข้า ว่าแล้วก็หันหลังกลับ ปีศาจตนนี้ก็ค่อยๆย่อตัวจมลงไปใต้ดินตรงที่ศาลพระภูมิตั้งอยู่

                มายืนกลางที่ดินที่บ้าน ก็ขอบารมีพระ ขอบารมีครูบาอาจารย์ได้โปรดสงเคราะห์ แผ่พระบารมีปกป้องคุ้มครองบ้าน ที่ดิน และคนในบริเวณบ้านทั้งหมดนี้ ขอความปลอดภัย อย่าได้มีภูติ ผี ปีศาจ คุณไสย หรือสิ่งอัปมงคลใดๆในบริเวณบ้าน ขอให้มีแต่สิ่งที่เป็นมงคล เมื่อนั้นก็ปรากฏเป็นแสงสว่างพุ่งจากฟ้าสู่ใต้พื้นดิน บริเวณบ้าน เลยไปถึงที่ดินน้าน้อยที่อยู่ติดกัน แต่ไม่สามารถแผ่ไปครอบคลุมที่ดินน้าชายเจ้าของโรงน้ำแข็งได้ เพราะจะไปกดทับปีศาจตนนี้ ทำให้มันอาจจะโมโหอาละวาดใส่เอาก็เป็นได้ ในเมื่อต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันแล้ว เราก็ต้องไม่ไปทำอันตรายอะไรเขาด้วยเช่นกัน จากนั้นก็ขอบารมีท้าวมหาราชทั้งสี่ ได้โปรดสงเคราะห์ส่งบริวารมาคุ้มครองประจำอยู่ที่นี่ด้วย ท่านก็ปรากฏกายให้เห็นที่สี่มุมของที่ดิน กราบลากลับมาเสร็จ ก็มานั่งนึกดูว่า ปีศาจตัวนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นึกๆดูแล้วก็น่าจะเป็นเพราะซินแสที่มาวางศาลพระภูมิคนนั้นหรือเปล่าที่พามา และคำแนะนำให้เอาศาลพระภูมิมาตั้งข้างๆโต๊ะหมู่บูชาพระ สวดให้อีก 100 วัน มันก็แปลกๆไม่เคยมีมาก่อน ครูบาอาจารย์ไม่เคยแนะนำวิธีแบบนี้ ก็มานั่งพิจารณาดูว่า เขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร 

                มันมีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือเขาต้องการที่จะเอาวิญญาณปีศาจมาสิงที่ศาลพระภูมิ แต่ว่าในบริเวณบ้านมี เทวดาคุ้มครอง มีบารมีพระรัตนตรัยคุ้มครอง จึงต้องเอาศาลมาตั้งใกล้ๆโต๊ะหมู่บูชาพระให้เราสวดมนต์ต่างๆให้ เสมือนหนึ่งจะบอกว่าเราเองเป็นคนยอมรับและรับเอาสิ่งที่จะมาสิงสู่อยู่ในศาลพระภูมิไม้หลังนี้ เมื่อเจ้าของบ้านยินยอมให้เข้ามาได้ มาอยู่อาศัยได้ เทวดาที่ดูแลสถานที่อยู่ ก็จะไม่ไปห้ามหรือขัดขวางเจ้าปีศาจตนนั้นๆได้ เดี๋ยวนี้มีการใช้เคล็ดลับแบบนี้เพื่อให้ผีเข้ามาอยู่ในบ้าน หรือเข้าสิงสู่รูปปั้นเทพต่างๆได้ เหมือนครั้งหนึ่งที่ผมไปเจอรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่วัดทางภาคเหนือ มองไปที่องค์เจ้าแม่กวนอิม แทนที่จะเห็นเจ้าแม่กวนอิม หรือบริวารของท่าน กลายเป็นผีตายโหงบ้าง อสุรกายบ้าง หลายตัวอยู่ด้วยกัน ของที่เอามาไหว้พวกนี้ก็หยิบกินกันซึ่งๆหน้า มองไม่เห็นเทวดามารักษาเลย แล้วผีพวกนี้ได้ยินคำขอของคนที่มาไหว้ มันก็มีความสามารถในการช่วยเหลือให้เรื่องที่ขอนั้นๆสำเร็จได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็ยิ่งทำให้คนที่มากราบไหว้บนบาน พากันเคารพกราบไหว้ เอาของมาแก้บน ผีพวกนี้ก็มีกำลังมากขึ้น มีพวกพ้องบริวารเข้ามาอยู่มาขึ้น ส่วนพวกที่ฝึกจิตมาจนสามารถมองเห็นพฤติกรรมของผีพวกนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก ประมาณว่า อย่าเสือก เรื่องขอกู ... 

                สุดท้ายนี้ คหสต. ผมว่านะ เราทั้งหลายควรจะฝึกฝนสมาธิ เจริญสติ ภาวนา ตามครูบาอาจารย์สอนเอาไว้บ้างนะครับ เผื่อว่าต้องไปพบปะเรื่องราวบ้าบอคอแตกอะไรขึ้นมา ก็ยังได้เอาตัวรอดได้ หรือพาคนในครอบครัวให้รอดได้บ้างมันก็ยังดีนะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้