เพ่งแสงสว่างและผีเน่าในฝัน

เพ่งแสงสว่างและผีเน่าในฝัน 

                ผลจากการชอบเพ่งแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ ตอนเด็กๆไม่รู้ว่านี่คือการเพ่ง ประสบการณ์ตอนนี้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง เมื่อพบกับเหตุการณ์ ฌานเสื่อม ซึ่งได้มาพิจารณาถึงตอนเด็ก 4-5 ขวบ ช่วงที่เพ่งแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์นี้เอง ที่ช่วยแก้เรื่องฌานเสื่อมไปได้

                ตี๋น้อย ไม่รู้จักสมาธิ ไม่รู้จักพุทโธ ไม่รู้จักพระพุทธเจ้า ไม่รู้จักกสิณ ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ในด้านการปฏิบัติภาวนา รู้จักแต่ผี เพราะโดนแม่หลอกเอาไว้เยอะมาก การเพ่งแสงสว่างในเวลานั้น ไม่ได้จับลมหายใจ ไม่ได้คาดหวังหรือต้องการฤทธิ์เดชอะไร ไม่มีคำบริกรรมใดๆ อาศัยอยู่อย่างเดียวคือความสบายใจ ส่วนร่างกายนั้นก็ผ่อนคลาย ไม่ได้เกร็ง ดวงตาที่มองแสงสว่างก็ไม่ได้เพ่งจนเอาเป็นเอาตาย เพราะอาศัยความสบายใจ ร่างกายผ่อนคลายเป็นหลัก และก็ไม่มีความคาดหวัง ไม่คิดนึกหรืออยากได้อยากดีอยากมีอยากเป็นอะไรทั้งนั้น ใจก็เกิดความสงบเย็น จะเป็นฌานหรือไม่ ก็ไม่สนใจทั้งสิ้น ตกกลางคืนนอนหลับก็ฝัน


                ในฝันก็จะเจอซากศพผู้ชายกำลังเริ่มเน่าเฟะเละเทะมาก นอนอยู่ในโลงศพ บางคืนก็ฝันเห็นว่าแกนอนของแกอยู่แบบนี้ เราก็ยืนดูจากด้านปลายเท้าของแก แต่บางคืนก็ฝันว่าแกลุกขึ้นมาจากโลง วิ่งไล่กวด เราก็วิ่งหนี วิ่งๆๆๆๆ....ตื่นมาก็จะเหนื่อยหอบ... บางคืนก็ฝันว่า ไปนอนทับศพผีผู้ชายคนนี้นี่แหละ อันนี้สยองมาก รีบลุกออกจากโลงทันที ผีผู้ชายนี้ก็ยังลืมตามองเราอยู่ ภาพในฝันก็ฝังใจจำได้แม่นมาก กว่าจะพอเข้าใจว่า ซากศพนี้คือศพที่ใช้เพ่งอสุภกรรมฐานในชาติที่แล้ว นิมิตติดตัวติดตามาในชาตินี้ ถ้าสมัยนั้นรู้เรื่องหน่อยก็คงฝึกอสุภกรรมฐานกันตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ...แต่ว่าอาปากับแม่นี่เน้นไปทางตำหนักทรง ไม่เน้นเรื่องฝึกสมาธิ ก็เลยไม่มีใครรู้เรื่องพวกนี้ เวลานั้นก็สรุปว่า ฝันก็คือฝัน แค่ฝันน่ากลัวเท่านั้นเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้