พญานาค ตอนที่ 2

พญานาค ตอนที่ 2 

                จากที่เคยผ่านไปพบโดยบังเอิญ แล้วก็งงๆด้วยไม่ทันเตรียมตัวว่าจะสงสัย ใคร่รู้เรื่องอะไรดี จะไปถามอะไรใครก็ไม่แน่ใจว่าจะควรไม่ควรอย่างไร ครั้งต่อมาก็ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมหาดูว่า พญานาคเหล่านี้ท่านเป็นใคร มีลักษณะอย่างไรบ้าง ก็อาศัยกรรมฐานตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา จับอารมณ์เพียงเบาๆ อาศัยความสบายใจเป็นหลัก ระงับนิวรณ์ทั้ง๕ประการได้แล้ว จิตทรงตัวดี ตามภาษาบาลีท่านว่า  เป็นอารมณ์ในอุปจารสมาธิ ก็ต้องอาศัยอาราธนาบารมี พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประธาน ครูบาอาจารย์ที่เคารพทุกๆพระองค์ช่วยสงเคราะห์ พอเห็นภาพท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายได้ชัดเจนดีแล้ว ก็ขอท่านว่าจะไปเที่ยวเมืองพญานาค ซึ่งที่จริงแล้วไม่ต้องบอก พระท่านก็รู้อยู่ทุกอย่างแล้ว รู้แม้กระทั่งคำถามที่เราคิดจะถาม ตามประสาพวกสอดรู้สอดเห็น และลูกอีช่างสงสัย

                ไปถึงก็เห็นเป็นงูหลายตัวรออยู่ตรงหน้า ตัวใหญ่มาก เกล็ดมีขนาดใหญ่ ลำตัวเท่ากับถังสีขนาด30ลิตร ดวงตาใหญ่พอๆกับลูกฟุตบอล ความยาวน่าจะสัก20-30เมตรเห็นจะได้ มองไปบนหัว ก็ไม่เห็นจะมีหงอน ไม่เหมือนรูปปั้นที่เขาปั้นเอาไว้ตามวัด หรือที่หน้ากล่องไม้ขีดไฟ บ้างสีเทา บ้างออกสีเขียว บ้างออกสีขาว ผมก็สงสัยว่า ในเมื่อท่านเหล่านี้เป็นงู มือก็ไม่มี กระเป๋าก็ไม่มี แล้วลูกแก้วที่ชาวบ้านเขาว่ากันนั้น ท่านเก็บเอาไว้ที่ไหน ท่านก็คายออกมาให้ดู เห็นว่าเก็บไว้ตรงแถวกรามด้านในสุด คืออยู่ตรงปลายสุดของกราม ก่อนจะถึงลำคอ พอคายออกมาเสร็จท่านก็แสดงรูปกายเป็นคน ผู้ชาย ที่เหลือก็คายออกบ้าง ก็กลายเป็นชายบ้าง หญิงบ้าง เป็นผู้ใหญ่บ้าง เป็นหนุ่มสาวบ้าง มีหน้าตาแตกต่างกัน แต่ก็จัดว่าสวย หล่อ ดูดีกันทุกๆตน ก็แน่นอนว่า ใครจะเนรมิตกายหยาบให้น่าเกลียดน่ากลัวล่ะ

                เรื่องลูกแก้วนี้ ก็มีเรื่องให้สงสัยว่า ที่พระบ้างโยมบ้าง บอกว่าเจอแก้วพญานาค นำมาอวดกันเป็นลูกแก้วสีต่างๆนั้น เป็นของจริงหรือไม่ ท่านก็ว่า พญานาคแต่ละตนกว่าจะบำเพ็ญบารมี จนเกิดมีลูกแก้วขึ้นนั้น ใช้เวลานับร้อยนับพันปี จนปีตบะแก่กล้าแล้ว พญานาคแต่ละตนก็มีเพียงลูกเดียว จะไปมอบให้ใครก็ไม่ได้เพราะต่างคนก็ต่างหวงแหน แต่อาจจะมีบ้างก็เกิดจากพญานาคที่บำเพ็ญตบะมานาน จนมีฤทธิ์อภิญญาได้หมดอายุขัยลง แต่ด้วยความหวงแหนลูกแก้วของตน เมื่อตายลงไปดวงจิตก็ไปติดอยู่กับลูกแก้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ลูกแก้วนี้ก็อาจจะไปอยู่กับพระผู้ทรงศีล มีฌานสมาบัติ เพื่อเจ้าของลูกแก้วนี้จะได้คอยโมทนาบุญกับท่านด้วย จนกว่าจิตจะพ้นจากการยึดถือในลูกแก้วนี้แล้วเปลี่ยนภพภูมิของตนไป

                อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะรู้ก็คือว่า ทำบุญทำกรรมอะไรถึงจะได้มาเกิดเป็นพญานาค เพราะว่าเห็นคนจำนวนมากที่อ้างว่านับถือพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยะสงฆ์นั้น มีความสนใจเคารพรักในพญานาคมาก บางคนก็ระลึกชาติได้ว่าตัวเองเคยเกิดเป็นพญานาคก็มี แล้วก็เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจนัก เรื่องนี้ก็ต้องกราบเรียนถามพระท่านเมตตาอธิบายถึงบุพกรรมที่ทำให้ได้มาเกิดเป็นพญานาค เผื่อว่าใครสนใจอยากจะเกิดเป็นพญานาคก็จะได้ประพฤติปฏิบัติตาม ก็ทรงตรัสถึงบุพกรรมของพญานาคว่า เป็นบุคคลที่มีใจรักในการทำบุญ คือชอบทำบุญ แต่ว่าเวลาทำบุญมักโกรธง่าย มีความหงุดหงิดไม่พอใจ เห็นคนนั้นทำอย่างนี้ คนนี้ทำอย่างนั้น ในระหว่างทำบุญที่วัด ก็เกิดขัดใจ ไม่พอใจ ปากไม่พูด ด้วยเกรงจะบาป แต่ว่าใจมันมีโทสะ ปรากฏออกทางสายตา สีหน้า แต่ว่าปากไม่พูดว่า หรือบางคนก็ว่าออกไปก็มี เมื่อตายลงไปก็ไปเกิดเป็นพญานาคเป็นส่วนมาก ด้วยอาศัยผลบุญจึงมีความเป็นทิพย์ แต่อาศัยบาปที่มีโทสะในระหว่างการทำบุญ ทำให้ต้องมาเกิดเป็นเดรัจฉาน มีดวงตาแดงก่ำ มีโทสะเป็นตัวนำหน้า พญานาคมีอายุขัยตั้งแต่หลายร้อยปีไปจนเป็นหมื่นปีก็มี พญานาคเกเร ที่มีทั้งโทสะ จับผิด จ้องอาฆาต ทำร้ายผู้อื่นก็มี พญานาคที่มีใจรักในการทำบุญก็มีมากด้วยกัน ในงานพิธีทางศาสนาบางพิธี ก็มีพญานาคที่มาร่วมทำบุญด้วยเช่นกัน

                ก่อนหน้าที่จะพิมพ์นิทานขี้โม้ตอนนี้ เกี่ยวกับลูกแก้วพญานาค ก็นึกลำดับทบทวนเรื่องราวสมัยวัยหนุ่มที่อยากรู้อยากเห็นว่า ตอนนั้นไปเจอกับเรื่องราวอะไรมาบ้าง กำลังลำดับเหตุการณ์เรื่องลูกแก้วพญานาคอยู่ จู่ๆ ก็มีมังกร เหาะผ่านมาข้างหน้า ที่ปากคาบลูกแก้ว มีหนวดยาว ตาโต มีเขา มีขา สีออกขาวๆ มาถึงก็บอกว่า “ไม่ใช่พญานาคเท่านั้นที่มีลูกแก้ว พวกข้าก็มีลูกแก้วด้วยเหมือนกัน ลูกแก้วข้าฯ ใหญ่กว่าด้วยเว้ย...” นี่ภาษาจิ๊กโก๋รุ่นเก่าเขาใช้กันแบบนี้ แล้วก็ฝากกำชับมาว่า เวลาเล่าเอ็งต้องเล่าเรื่องลูกแก้วมังกรของพวกข้าฯด้วยนะ.... เนื่องจากมาเร็ว เคลมเร็ว ไม่ทันจะถามอะไร เพราะนึกคำถามไม่ทัน มังกรตนนี้ก็ไปซะแล้ว ...ก็เป็นอันว่าเล่าเอาไว้แล้วนะครับ ส่วนเรื่องพญานาค 7 เศียร ซึ่งกำลังบำเพ็ญตบะอยู่ จ.เพชรบูรณ์ ใกล้ๆกับป่าศรีเทพ ก็ขอไม่เล่ารายละเอียด เพราะท่านขี้หงุดหงิดง่าย ไม่ชอบให้ใครไปยุ่ง แล้วก็ดุร้ายมาก มีฤทธิ์มาก ล้อเล่นด้วยไม่ได้ ก็เป็นอันว่าขอจบนิทานขี้โม้เรื่องพญานาคสำหรับตอนที่2 ตอนถัดไปจะเป็นพญาครุฑที่ไปพบเจอเข้าตอนที่ไปเจอพญานาค


                สำหรับเรื่องไข่พญานาค ท่านมาบอกว่าอย่าลืมเล่าว่า พญานาคไม่ได้ออกลูกเป็นไข่ แม้จะมีความรักใคร่สมสู่ได้ก็ตาม แต่ลูกที่เกิดมาก็เป็นตัว มีลักษณะเหมือนการอุบัติขึ้น ไม่ได้คลอดลูกอย่างสัตว์ทั่วไป แต่ว่าจะคลอดยังไงท่านไม่ได้แสดงให้ดู เพราะเป็นเรื่องลับ ส่วนตัว ก็ขออธิบายตามท่านเล่ามาแบบนี้ก็แล้วกันนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้