พญาครุฑ ตอนที่1

พญาครุฑ

                ตามตำนานที่เคยอ่านกันมา พญาครุฑที่ไปฉกน้ำอำมฤตมีอยู่ตนเดียว สู้แพ้พระนารายณ์จนต้องมาเป็นพาหนะให้ขี่ ก็ไม่ได้สนใจอะไรกันนัก แตกต่างจากพญานาคที่มีจำนวนมากหน้าหลายตากว่า
เมื่อหลายปีก่อนก็บังเอิญได้ไปงานไหว้ครูที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านพระครูเจ้าอาวาสทำพิธี ก็มีครุฑมากระพือปีกเหนือตัวท่าน จนเสียงดังออกลำโพง มองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็เห็นครุฑอีกหลายตน บินวนไปเวียนมา ทำให้นึกสงสัยขึ้นมาว่า อ้าว...ครุฑก็มีหลายตนเหรอ? แล้วเมียครุฑ ลูกครุฑ เป็นยังไง เกิดมาจากไหน? ประสาคนช่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะขี้เกียจแล้ว การไปยุ่งเรื่องชาวบ้านไม่ใช่สาระในการปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด ใครเขาจะอะไรก็ช่างเขา ดูจิตดูใจเราดีกว่า... จนเมื่อเวลาผ่านไป การดูจิตดูใจของตนเองก็ไม่ได้จะทำให้เลวน้อยลงสักเท่าไร จึงมีโอกาสแวะเวียนไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านสักเล็กน้อย พอจะได้เอามาเล่าเป็นนิทานขี้โม้

                ปกติสำหรับพวกเราแล้วเวลาจะไปไหนมาไหนก็จะกราบพระก่อนขอบารมีองค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นประธาน ครูบาอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อ พรหมเทวดา เราก็กราบด้วยความเคารพ ขอบารมีสงเคราะห์คุ้มครองไม่ให้เกิดอันตรายระหว่างการฝึกปฏิบัติ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามปกติจะไปที่ไหนก็จะปรากฏกายที่นั่นได้เลย แต่ว่าครั้งนี้ขอไปแบบค่อยๆไป เพราะว่าสงสัยเหมือนกันว่า พญาครุฑท่านพำนักอยู่ที่ไหน ถ้าจะไปหาทีหน้าทีหลังจะไปยังไงได้บ้าง

                ก็หันหน้าไปทางทิศตะวันออกพุ่งออกไปเรื่อยๆ ก่อนถึงทางสามแยก ทางซ้ายมือก็จะเจอภูเขาสูงเสียดฟ้า มองมาทางพื้นล่างจะเห็นเหมือนเป็นป่า มีพวกคนธรรณ์ ที่หน้าตาก็จะเหมือนคน มีทั้งชาย หญิง เด็ก คนแก่ พอมองขึ้นไปที่ยอดเขา ก็เห็นถ้ำอยู่ไกลๆ มีความสว่างไสวดี ไปถึงหน้าถ้ำ ขอเรียกว่าถ้ำก็แล้วกันเพราะไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี มีลานกว้างๆด้านหน้า อากาศก็ขมุกขมัว เหมือนมีเมฆ มีหมอก ปกคลุม หรือว่าเป็นเพราะทิพยจักขุญาณของเรามันห่วยแตกก็เป็นได้ หันไปเจอหลวงพ่อท่านก็บอกว่า ทิพยจักขุญาณของปุถุชนผู้ทรงฌานจะมองอะไรแทบไม่เห็น ได้เพียงความรู้สึก แต่สำหรับแก แกอาศัยบารมีขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงสามารถเห็นได้ชัดเจนแบบนี้ บรรยากาศมันเป็นแบบนี้เองขมุกขมัว ไม่ใช่ทิพยจักขุญาน ห่วยแตกอย่างที่เข้าใจ


                มีครูบาอาจารย์ฉลาดก็ดีแบบนี้เองครับ เพราะถ้าขืนใช้กำลังตัวเอง ฝึกไปอีกแสนชาติก็คงจะไม่ไปถึงไหน ไม่รู้ไม่เห็นอะไรได้เลย ที่ลานกว้างหน้าถ้ำก็เห็นพญาครุฑหลายตนยืนอยู่ ที่องค์สูงใหญ่มาก ร่างกายเป็นสีทอง ปีกเป็นสีทองทั้งหมด สวยงามมาก หลังจากสวัสดีทักทายกันแล้วท่านก็เชิญเข้าไปดูในถ้ำ  พอผ่านถ้ำเข้าไป พญาครุฑท่านก็กลายร่างเป็นคน รูปร่างสูงใหญ่สันทัด หน้าตาเข้ม ผิวสีเข้ม แล้วก็เห็นลูกแก้วลูกใหญ่ๆ ท่านถืออยู่ในมือข้างขวา ท่านก็คงจะรู้ว่าเราคิดอะไร ถึงได้ตอบว่า ไม่ใช่แต่พญานาคที่มีลูกแก้วนะครับ พวกกระผมก็มีลูกแก้วเหมือนกัน แก้วที่ผมใหญ่กว่า มีอำนาจ พลานุภาพเหนือกว่า ดูแล้วก็ไม่ได้เถียงอะไรครับ เพราะเรื่องลูกแก้วผมไม่ค่อยมีความรู้ เป็นอันรู้แค่ว่า พญาครุฑท่านก็มีลูกแก้วของท่านเช่นกัน ที่จริงตั้งใจว่าจะเล่าให้จบในคราเดียว แต่ร่างกายไม่ค่อยจะเอื้ออำนวย ก็ต้องขอไปต่อครั้งหน้านะครับ วันนี้ร่างกายยังเจ็บระบมอยู่หน่อย....

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้