ผีกะยักษ์หรือผีปอบ?

ผีปอบหรือผีกะ

                ปกติผมเป็นคนกลัวผีมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ไม่ค่อยชอบยุ่งกับผีสางคางแดงสักเท่าไร จะมีจริงไม่มีจริงก็ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ว่าในสมาธิแล้วก็จะรู้สึกเฉย ไม่ได้กลัว แล้วก็ไม่ได้กล้า ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับผี หรือไม่ผี มันก็มีค่าไม่ต่างกัน สักแต่ว่าสมมติด้วยกันทั้งนั้น ไม่ได้พ้นทุกข์อะไร ยังคงมีความทุกข์เสมอกัน

                มันก็แปลกดีนะครับ สมัยที่อยากเห็นก็ไม่เห็นหรอก พอไม่ได้อยากเห็นแล้วก็กลับมาเห็น เห็นตอนไม่อยากเห็นแล้วมันก็เลยเฉยๆไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่เห็นว่ามีบางอย่างที่แปลกๆดี ก็เอามาโม้เอาไว้ในนิทานขี้โม้ เผื่อว่าจะมีใครบ้าตามกระผมไปด้วย

                ทางภาคเหนือเรียกว่าผีกะ ทางภาคอีสานเรียกว่าผีปอบ ภาคใต้ผีมโนรา ผีครู ก็คล้ายๆกัน พวกนี้ต้องมีการเซ่นสรวงกันทุกๆปีเป็นประจำ เซ่นด้วยของดิบๆ เนื้อดิบ เลือดสด บางที่ก็กำหนดให้มีการเซ่นทุกๆ3ปี ถ้าไม่เซ่นสรวง ก็จะถูกสิง ถูกกินเครื่องในอวัยวะ แล้วกลายมาเป็นมะเร็งบ้าง ปวดท้องบิดมวน แล้วก็ตาย ด้วยโรคบิดบ้าง หัวใจวายบ้าง ถ้ากินที่ตับก็เป็นมะเร็งตับ กินไส้ก็เป็นมะเร็งลำไส้ ปวดท้องบิดมวน กินหัวใจก็จะหัวใจวาย มันก็เป็นเรื่องแปลกที่มองเข้าไปข้างในร่างกายของคนที่ถูกกินก็จะเห็นผีปอบหรือผีกะ มองเห็นหน้าและหัว แสยะปากอยู่ ทำท่าเหมือนขู่ ไอ้เราก็เฉยๆนะ

                ผ่านไปหมู่บ้านนึงทางภาคเหนือ ไปเจอพวกผีกะยักษ์หรือว่าผีปอบที่ครอบครองหมู่บ้านแถวนั้นมานานหลายร้อยปีแล้ว ถ้าจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้อยากไปเห็นหรือไปยุ่งด้วยเลย แต่ว่าหลวงพ่อท่านสั่งมาว่า เอ็งต้องทรงฌานให้ได้ ทีนี้การที่จะทรงฌานได้เอาอะไรมาเป็นเครื่องหมาย ก็ต้องดูที่จิตมีความทรงตัวดี มีนิวรณ์อันบางเบาแล้ว มีสติครบ มองเห็นภาพพระ หรือเห็นหลวงพ่อได้เป็นปกติ พอเห็นหลวงพ่อ หลวงปู่ ได้ชัดเจนดีแล้ว ที่จะเห็นรอบๆก็มีพรหม เทวดา ท่านจะมาคอยติดตามหลวงปู่หลวงพ่อ ดังนั้นการจับภาพหลวงพ่อ ก็ดี หลวงปู่ก็ดี มีคุณมากเช่นกัน อย่างน้อยที่สุด จิตเราก็ไม่ต้องไปคิดชั่ว หมกมุ่นในอารมณ์อันโสโครก แล้วในเมื่อเห็นหลวงพ่อหลวงปู่ได้แล้ว ผีกะยักษ์ตนนี้ก็เห็นได้ไม่ยากอะไร บริวารผีกะยักษ์ตนนี้ก็เป็นคนในตระกูลหนึ่ง ตายไปแล้วก็ไปเป็นบริวารผีกะยักษ์ตนนี้ ตรงนี้ก็น่าสงสัยว่า เพราะอะไรตายแล้วไม่ไปนรกไม่ไปสวรรค์ ต้องมาเป็นบริวารของผีกะยักษ์ตนนี้

                ก็กราบเรียนถามท่านผู้มีพระคุณ อันมีหลวงปู่หลวงพ่อเป็นต้น ท่านก็เล่าให้ฟังว่า ในอดีตกาลนานหลายร้อยปีก่อน ที่ตรงนี้มีคนมาตั้งรกราก พื้นที่ยังเป็นป่ารกชัฏ เมื่อไถถางแล้วก็เริ่มสร้างบ้านอยู่กัน นานวันเข้าก็เกิดมีหมู่บ้านใกล้ๆ ต่อมาก็เริ่มมีการทะเลาะขัดแย้งกัน พอโกรธแค้นกันหนักๆเข้าก็ถึงกับเอาผีมาช่วยสู้ ตัวพ่อบ้านตระกูลนี้ก็พาลูกหลานญาติๆมาทำพิธีบวงสรวงเซ่นผีป่า สมัยนั้นเขาเรียกผีป่า แล้วก็ทำคำสัตย์สาบานว่าขอเป็นบริวารรับใช้ เป็นข้าทาสที่ซื่อสัตย์ ขอให้ผีป่ามอบวิชา อำนาจ เพื่อไปสู้กับพ่อบ้านอีกหมู่บ้านนึง มันจึงเกิดเป็นพันธะสัญญาต่อๆมายังลูกหลาน ต้องตกอยู่ใต้อาถรรพ์ที่บรรพบุรุษไปทำเอาไว้ แล้วทุกๆ3ปี ต้องมีการเซ่นด้วยของสด ของคาว แลกกับได้วิชาอาคม บันทึกลงไว้ในแผ่นหนังบ้าง แผ่นกระดานบ้าง ถ่ายทอดต่อๆกันในหมู่ลูกชายของบ้านนั้น อีกหมู่บ้านหนึ่งรู้เข้าก็เอาบ้าง ทำแบบเดียวกันบ้าง แล้วก็เกิดการสู้กันด้วยวิชาอาคม ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนผ่านไป3-4ชั่วคน ก็ชักจะเบื่อแล้ว รุ่นหลังๆไม่เอาแล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่ วิชาอาคมก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ ไม่มีใครอยากสืบทอด การเซ่นสรวงก็ไม่ได้ใส่ใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผีบรรพบุรุษก็เริ่มไม่พอใจ เพราะคำสัญญาสาบานที่พวกตนให้ไว้กับ ผีป่ายังมีผล ผีป่าตนนี้เองที่มีอำนาจมาก ตัวสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปสักเท่าตัว ผมดกดำ ตาโปนโต ใส่ชุดคลุมสีดำสนิท ดูรุ่มๆร่ามๆ หนวดเครารุงรัง เดินโคลงๆเคลงๆ แต่ว่ามีวิชาอาคมไม่ธรรมดา สภาพแบบนี้บางพวกก็จะเรียกว่าเหมือนปีศาจ


                ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่ผมยังฝักใฝ่ด้านมืดอยู่นั้น พวกปีศาจ เดือนศาจหรือจะวันศาจ พวกนี้กระจอกมาก เป็นบริวารชั้นปลายแถว แต่ว่ามันผ่านมานานแสนนานแล้ว เวลานี้ตั้งใจมุ่งตรงต่อพระรัตนตรัยแล้ว ทิ้งด้านมืดไปแล้ว มาในวันนี้ไอ้กระจอกคือตัวเรานี่เอง เพราะสู้พวกนี้ไม่ค่อยจะได้เสียแล้ว ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆผมก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เห็นก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น ทำไม่รู้ไม่ชี้ซะ แต่ถ้าจำเป็นต้องไปแก้อาถรรพ์คำสาบานของบรรพบุรุษของคนในหมู่บ้านนี้ จะแก้ยังไง...มันแก้ยากมากนะ...เพราะไม่ใช่ผีกะยักษ์ไปบังคับให้มาเป็นบริวาร แต่ตัวเองพร้อมใจกันขอไปเป็นบริวารเขาเพื่อให้เขาช่วย...เอาไงดี???

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้