ราชันย์ทะเลใต้ ตอนที่ 6


ราชันย์ทะเลใต้ ตอนที่ 6

วิชาจตุคามศาสตร์ ต้องฝึกยังไงบ้างครับ? (ผมว่าหลายๆคนก็คงอยากจะรู้หรืออยากจะลองฝึกดูบ้างเหมือนกัน....

แทนคำตอบ ท่านยัดปากกาเมจิกสีน้ำเงินใส่มือ แล้วเอาผ้าสีขาววางลง จับมือเขียนยันต์ ลักษณะการจับมือเขียนยันต์คือ นั่งตรงกันข้ามกัน แล้วจับมือเราเขียนยันต์ลงบนแผ่นผ้า เท่ากับว่าเทพในร่างคน ต้องเขียนยันต์กลับด้าน ตอนนั้นไม่ทันตั้งตัว จับมือไปทำอะไรก็ทำไป จะวาดจะเขียนอะไรก็เขียนไป ไม่ได้คิดอะไร เสร็จจบ ก็บอกว่า “กูถ่ายทอดวิชาให้มึง”  แล้วก็พูดต่ออีกว่า ต่อไปนี้ถ้ามึงจะเขียนยันต์ ให้มึงนึกถึงกู ยันต์ที่มึงเขียนลงไปจะมีผลทุกๆอย่าง ต้องการให้ใครฉิบหาย เขียนชื่อ นามสกุลมันลงไป แล้วเขียนยันต์ทับ เผายันต์ลงดิน  ถ้าต้องการให้ใครเจริญรุ่งเรือง ให้เขียนดาวกับเดือน เอาไว้ที่สองมุมบนของยันต์ เผาลงดินอธิษฐาน จะให้ผลตามนั้นทุกอย่าง

                แล้วมีข้อห้ามข้อบังคับอะไรในการใช้วิชานี้บ้างครับ?
ข้อห้ามก็คือ ห้ามใช้ช่วยเหลือตนเองและญาติพี่น้องคนในครอบครัว นอกนั้นช่วยได้หมด????????

                เวรแล้วครับพี่น้องครับ นี่มันวิชา ขี้ข้า โดยแท้แล้วนะ ไม่อยากจะได้แล้วแหละครับ วิชาอะไร ช่วยได้แต่คนอื่น ช่วยตัวเองและคนในครอบครัวไม่ได้เนี่ย????  ว่าแล้วผมก็รีบถามต่อทันทีว่า แล้วร่างที่ท่านมาเข้าสิงเนี่ย ทำไมไม่ถ่ายทอดวิชาให้มันล่ะครับ มาถ่ายทอดให้ผมทำไม???? (ไม่ได้อยากได้ คือถ้าเอามาใช้ช่วยตัวเองและคนในครอบครัวได้ด้วยยังพอจะน่าเรียนหน่อยนะ....เฮ้อ)

                ท่านว่า มันไม่สามารถรับวิชากูได้ แต่มึง ไอ้น้อง มึงรับวิชานี้ได้ หลังจากนี้ให้มึงไปที่พรหมชั้น7 เรียนวันละ3ชั่วโมง ใช้เวลา 16 ปีก็จะสำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์

                คือวิชาท่านไม่มีอะไรน่าจูงใจให้ฝึกเลยจริงๆนะครับ แต่ก็เข้าใจว่าพระโพธิสัตย์นี่ท่านต้องทำเพื่อผู้อื่นอย่างชนิดไม่คิดชีวิต ไม่เป็นห่วงตัวเองเลย นี่กำลังใจต้องขนาดนั้น  ว่าแล้วก็สงสัยต่อว่ามีวิชาไหนที่เหนือกว่าวิชาจตุคามศาสตร์บ้าง?

                ท่านก็นั่งนึกสักพักก็บอกว่า วิชาม้วนแผ่นดินของพระโมคคัลลานะ วิชานั้นทำได้แต่พระโมคคัลลานะเท่านั้น แม้แต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเองก็ไม่สามารถใช้วิชานี้ได้ (จริงเท็จประการใดก็ไม่ทราบนะครับ ถือว่าเล่าสู่กันฟังแบบนิทานขี้โม้ละกันนะ)
จริงๆแล้วผมเองก็สงสัยว่าทำไมท่านไม่มีลูกมีเมียหรือไง ไม่เห็นมีใครกล่าวถึง แต่ก็ไม่ได้ถาม แค่อยากรู้ว่าตอนตายท่านตายยังไง โดนใครฆ่า หรือว่าป่วยตาย????

                ท่านว่า ท่านนอนไปบนเรือเพียงลำพัง เกิดท้อแท้เบื่อหน่ายถึงที่สุด เบื่อจริงๆ ก็ตายในเรือนั้น ไม่ได้ป่วย ไม่ได้มีใครฆ่า ตายตอนอายุ 45-46 ปีเห็นจะได้

ช่วงที่ได้เจอะเจอนั้น เป็นช่วงที่ท่านขุนฯพึ่งเสียชีวิตพอดี ท่านเรียกว่าไอ้หนวด เราก็อยากรู้ว่า ตายแล้วไปไหน ท่านก็เอามือชี้ลงพื้นดิน ทำนองว่า ลงข้างล่าง แล้วก็ถามไปถึง หลวงฯท่านหนึ่ง ที่ทำพิธีรำดาบบ้าง ลงเรือดำน้ำบ้าง ท่านก็ว่า ไอ้นี่มันท่าจะบ้าไปแล้ว พวกมึงคอยดูก็แล้วกัน (หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ข่าวว่า อาพาธหนัก สึกออกมาเป็นฆราวาส แล้วก็ตายอย่างน่าเห็นใจมาก)  
เล่นกับเทพนี่เล่นยากนะครับ เพราะเทพยังมีรัก โลภ โกรธ หลง มีกิเลส มีตัณหา ต่างจากพระอริยะสงฆ์ ท่านละแล้วซึ่งกิเลสตัณหา ไม่ถือสาพวกปุถุชนคนทั้งหลาย สุดท้ายแล้วผมก็เชื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า “ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน” มุมานะ เพียรพยายามด้วยตัวเราเองให้สุดกำลังก่อนดีกว่า อย่าเที่ยวไปกราบไหว้อ้อนวอนขอเทพองค์นั้นองค์โน้น ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ดังนั้น อย่าเห็นแก่ของฟรี จะชีช้ำในภายหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้