ผีชวนไปอยู่ด้วย


ผีชวนไปอยู่ด้วย

                เรื่องราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เกิดขึ้นกับคนรอบข้าง กรณีที่เกิดกับลูกสาวนั้นก็สามารถแก้ไขได้ทัน เพราะอยู่ไม่ห่างกันสักเท่าไร แต่สำหรับท่านที่อยู่ห่างไกลกันนั้น ก็พอจะแนะนำวิธีการแก้ไขให้ได้เพียงแต่ว่าตัวท่านผู้นั้นต้องมีสมาธิพอสมควร เพราะถ้าขาดเสียซึ่งกำลังสมาธิแล้ว คาถาที่ใช้สวดใช้ท่องไปก็ไร้ผล สมาธิไม่มีพอจะส่งไปยังครูบาอาจารย์ ท้าวมหาราชทั้ง๔ ท่านก็ช่วยเราไม่ได้ หรือท่านจะช่วยแล้วส่งสารส่งญาณแผ่มาถึงแล้วแต่ว่าเราไม่มีสมาธิพอที่จะรับพลังญาณต่างๆของท่านไว้ได้ มันก็ไม่เกิดผล ดังนั้นสำหรับเรื่องสมาธิแล้ว อยากจะบอกว่า จำเป็นต้องฝึก ฝึกให้มากๆ ฝึกให้บ่อยๆ ฝึกให้ต่อเนื่อง เพราะถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับตัวท่านเอง จะได้เอาตัวรอดให้ได้ สำหรับท่านที่คิดว่าตัวเองโง่ ไม่มีวาสนา ไร้บารมี ก็เหมือนผมที่เคยคิดแบบนั้น จนมาวันนี้ผมตัดสินใจเขียนเรื่อง กรรมฐานคนโง่ เอาประสบการณ์ของตัวเองมาสรุปรวมเอาไว้ เผื่อว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนพ้องน้องพี่บ้าง
http://sama-samathan.blogspot.com/2018/06/1.html?m=1

                ผีชวนไปอยู่ด้วย คนที่ถูกชวนไปอยู่ด้วยนั้น ผมสังเกตเห็นความเหมือนกันอยู่บางประการคือ เป็นช่วงที่ดวงตก และ มีกรรมเกี่ยวพันสืบเนื่องกันมา หาไม่แล้วก็ทำอะไรกันไม่ได้หรอกนะครับ คนก็อยู่ส่วนคน ผีก็อยู่ส่วนผี ปกติธรรมดาก็ไม่ค่อยจะต้องยุ่งวุ่นวายกันอยู่แล้ว

                เด็กเล็ก คือยังเด็กอยู่ ไม่รู้ความ ช่างเจรจาน่ารัก น่าจะวัยไม่เกิน 5 ขวบ พวกนี้ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสถูกพาไปอยู่ด้วย คนโบราณเวลามีงานศพ หรือต้องไปทำพิธีใดๆที่มีเรื่องผีเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงห้ามเด็กเล็กไม่ให้ไป เพราะถึงจะไปก็ไม่ได้รู้เรื่อง ไม่เกิดประโยชน์ แต่ไปแล้วไปส่งเสียงเอะอะบ้าง วิ่งเล่นไปในจุดที่ผีบางตนอาศัยอยู่หรือกำลังอยู่ในพิธีกรรม พวกนี้ก็จะมีสองอย่างคือ น่ารักจะเอาไปอยู่ด้วย กับน่ารำคาญจะเอาไปอยู่แบบอบรมสั่งสอนแทนพ่อแม่มัน ดังนั้นเวลามีพิธีกรรมเหล่านี้ เช่นการทำบุญกระดูกปู่ย่าตายาย ก็ไม่ควรเอาเด็กเล็กไปด้วย ธรรมดาของเด็กไม่รู้เรื่อง ซน แต่ผู้ใหญ่รู้เรื่อง รู้ว่าเด็กซน รู้ว่าไม่ควรพาเด็กเล็กไปด้วย แต่ก็ยังจะพาไป พวกนี้ก็สุดวิสัยช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน หลายๆครอบครัวไม่เชื่อเรื่องผี ก็ไม่เป็นไร คำแนะนำใดๆก็ไม่มีผล จนกระทั่งเกิดเรื่อง ถึงได้ร้องโวยวายกันลั่นบ้าน

                ตายายไม่เชื่อเรื่องผี วันสงกรานต์ก็เอาโกฏิกระดูกทวดมาจากหิ้ง วางไว้ที่โต๊ะรับแขก เตรียมจะเอาไปที่วัด เพื่อให้พระสวดทำบุญกระดูก ก็ให้บังเอิญว่าหลานวิ่งมาจับโกฏิกระดูกแล้วเปิดฝาดู ด้วยความอยากรู้อยากเห็นสงสัยตามประสาเด็ก  คนวางก็วางไว้แล้วก็ไม่ได้ดูอะไร เดินไปโน่นมานี่ สักพักก็ได้ยินเสียงหลานกรี๊ดร้อง หวาดกลัวสุดขีด เหมือนเห็นอะไรเข้า ก็จะอะไรเสียอีกล่ะ ย่าทวดมายืนตรงหน้าจะจับตัวเอาไปอยู่ด้วย เด็กน้อยวัย 3-4 ขวบกำลังน่ารัก พี่เลี้ยงได้ยินเสียงกรีดร้องก็วิ่งมาดู จะเข้าไปจับก็ไม่ยอมให้จับ สะบัดวิ่งหนีไปแอบตามซอกตามมุมบ้าง ตายายเข้ามาหาก็วิ่งหนีร้องด้วยความหวาดกลัว ไปหลบใต้บันได โดยหาสาเหตุไม่ได้ จึงได้มาตามผมให้ไปช่วย เวลานั้นก็ทำน้ำมนต์ให้ดื่มและให้อาบ ส่วนย่าทวดก็ฝากหลวงพ่อเอาไว้ที่วัด ไม่ให้มาอยู่ที่บ้าน ขอบารมีท้าวมหาราชทั้ง๔ ท่านให้บริวารมายืนเฝ้าให้ เพียงแค่นี้ก็เรียบร้อยครับ เป็นอันว่าปลอดภัย

                สมัยที่ผมยังเรียนม.ปลาย หารายได้จากการไปเป็นเช็คเกอร์หนังกลางแปลงบ้าง ปิดวิกบ้าง เคยได้มีโอกาสเจอครอบครัวเจ้าของวิกหนังที่เรียนคาถาอาคมสายเขมร น้องสาวเจ้าของวิกหนังมีผู้หญิงผมยาวมายืนกวักมือเรียกชวนไปอยู่ด้วย ตอนดึกๆ มายืนหน้าบ้าน กวักมือเรียกชื่อด้วย ชะโงกหน้าต่างมองออกไปก็เห็นยืนเรียกอยู่หน้าบ้านจริงๆ มองหน้าแล้วก็ไม่รู้จักว่าผีตัวนี้คือใครมาจากไหน จะชวนไปอยู่ด้วยทำไม? เนื่องจากอาอึ้มมีวิชาอาคมขับไล่ผีได้ แต่ก็ไล่ผีตัวนี้ไม่ไป ลูกสาวก็เริ่มกลัวแล้ว เพราะจากที่ดึกๆมายืนเรียก คืนต่อๆมาก็เริ่มจะมาเรียกเร็วขึ้น 2 ทุ่มต้องรีบปิดบ้าน เพราะเธอมายืนเรียกอยู่หน้าบ้าน เรามักเรียกพวกนี้ว่า ปีศาจ ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน เวลานั้นเธอคนนี้ดวงตกพอดี แต่ก็ได้ใช้คาถาหลวงพ่อโอภาสี สวดทุกๆวัน อาศัยว่าแม่มีวิชาอาคม ลูกชายลูกสาวก็ได้เรียนมาจากแม่ การฝึกจิตอยู่ในขั้นใช้การได้เลยทีเดียว ดังนั้นการใช้คาถาอาคมของครอบครัวนี้ก็ไม่มีปัญหา ผีหรือปีศาจสาวที่ว่า เมื่อได้ยินบทสวดนี้แล้ว ก็ค่อยๆถอยห่างจากบ้านไปเรื่อยๆ ไปยืนเรียกห่างไปสองเสาไฟฟ้า จนค่อยๆถอยห่างออกไปและหายไปในที่สุด

                พวกนี้ถ้าไม่ไล่ไปให้พ้นแล้ว ก็จะพาไปอยู่ด้วยโดยการดึงเอาวิญญาณข้างในออกจากร่าง อันนี้สำหรับคนที่จิตอ่อน อีกพวกหนึ่งคือทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วเอาวิญญาณไปอยู่ด้วย บางทีก็ผลักจักรยานตกข้างทางลงบ่อน้ำจมน้ำตายแบบมีข้อกังขา เพราะบางทีบ่อน้ำตื้นๆแค่หัวเข่า ตายได้ไงล่ะเนี่ย

                จะแก้ไขเรื่องนี้ผมเห็นว่า อาศัยน้ำพุทธมนต์ให้ดื่มและอาบ ทำสายสิญจน์ผูกที่คอและข้อมือทั้งสองข้าง จากนั้นค่อยไปถวายสังฆทาน ปล่อยปลา ก็เพียงพอ แต่ว่าน้ำพุทธมนต์ต้องได้ครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณพิเศษทางด้านจิต สายสิญจน์ก็ผูกด้วยคาถาพระเจ้า๕พระองค์ก็เพียงพอ หลังจากผูกสายสิญจน์ไปแล้ว 49 วันก็หายขาด แกะออกได้

                เมืองฝรั่ง เมืองแขก เมืองจีน ก็มีเรื่องผีชวนไปอยู่ด้วยเหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าเมืองไทยอาจจะดูเยอะกว่ามาก เพราะบ้านเรานี่สารพัดผีจริงๆ คนไทยก็มีความเชื่อเรื่องนี้กันมากจริงๆ ยิ่งเชื่อมากเท่าไร คืออุปทานของเราในเรื่องผีมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ผีมีอิทธิพลต่อคนไทยมายิ่งขึ้นไปด้วยครับ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องกังวลมากไปนะครับ เพียงแต่ฝึกสมาธิให้จิตมีกำลังเพียงพอ ผีสางที่ไหนจะมาเอาไปอยู่ด้วยได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้