ภัยพิบัติฉบับขี้โม้ ตอนที่2


ภัยพิบัติฉบับขี้โม้ ตอนที่2

               เมื่อไปถึงเขาหลัก ได้พบพ่อท่านรูปหนึ่ง ท่านเป็นศิษย์รูปสุดท้ายของพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน เป็นศิษย์ลำดับที่ ๙ ได้เห็นรูปที่ถ่ายเอาไว้วันที่เกิดสึนามิ ซากศพกองเต็มชายหาด มองไกลๆเหมือนเศษไม้ที่ถูกพัดมากองรวมกัน มองไปใกล้ๆมันคือซากศพทั้งนั้น เป็นที่น่าสลดใจมาก คนภาคกลางเรียก หลวงพ่อ หลวงพี่ คนภาคใต้เรียก พ่อหลวง พี่หลวง พระเกจิที่ได้รับการเคารพนับถือมากก็จะเรียกพ่อท่าน ถ้าชราภาพมากๆ ก็จะเรียกว่าพ่อทวด เช่นหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ไม่ได้เรียกว่าหลวงปู่ เหมือนอย่างภาคกลาง พ่อท่านรูปนี้มีความพิเศษด้วยกันหลายประการ บ่อยครั้งที่มีคนเห็นท่านไปเดินจงกรมอยู่บนสันหลังคาโบสถ์ บ้างก็เห็นท่านกวาดลานวัดอยู่ แต่ก็มีโยมมานั่งกราบท่านอยู่ที่กุฏิในเวลาเดียวกัน พอถามท่าน ท่านก็เฉยๆ ไม่ได้แสดงว่าเป็นพระที่มีความพิเศษแต่อย่างใด พ่อท่านพูดน้อย ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

               พ่อท่านเล่าว่า หลังวันที่เกิดสึนามิ ต้องช่วยกันลากศพมากองไว้ที่ลานวัด เต็มลานวัดไปหมด ต้องรีบเผาเพราะศพบางศพเริ่มจะเน่าแล้ว ใช้ยางรถยนต์ สุมๆแล้วเผากันที่วัดนี่เอง ตกกลางคืนก็มีคนจำนวนมาก ร้องไห้เดินไปเดินมา เป็นฝรั่ง ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก เดินร้องไห้ ตามหากัน พระเณรในวัดก็เห็นกันหมด ชาวบ้านที่มาช่วยกันย้ายศพก็เห็น พ่อท่านว่าเขาตายอย่างกะทันหัน ยังไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว ก็เที่ยวออกมาเดินตามหากัน เป็นอย่างนี้อยู่ได้สัก3คืน พ่อท่านอุทิศส่วนกุศลไปตลอด วิญญาณพวกนี้ก็หายไป เรื่องพวกนี้แม้ว่าผมจะรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง แต่จะว่าไปก็ไม่ค่อยจะไปสงสัยมากนัก มีเรื่องที่สงสัยจริงๆก็คือว่า เรื่องการจะเกิดภัยพิบัติครั้งร้ายแรงขนาดนี้ พ่อท่านไม่รู้ล่วงหน้าหรือ? ครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ พระโพธิสัตย์ที่มีบารมียิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ ทำไมไม่ออกมาช่วยเตือน เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องร้ายแรงจนต้องสูญเสียชีวิตผู้คนมากมาย ตายกันนับหมื่นคน โดยมากก็เป็นชาวต่างชาติ หลายชาติด้วยกัน คนไทยก็ตายไปนับพันคน หลังเกิดสึนามิแล้ว จึงได้มีการพูดถึงปาฎิหาริย์ออกมาบ้าง แล้วก็พูดต่อไปว่าจะเกิดสึนามิครั้งร้ายแรงกว่านี้ตามมาในไม่ช้า ในแต่ละปีก็มีคำทำนายเรื่องสึนามิ แทบทุกปี จนนักท่องเที่ยวหนีหายไปมาก จนแม้ทุกวันนี้ก็ยังมีนักแช่งเมือง คอยทำนายทายทักให้เกิดสึนามิครั้งใหญ่ และคงจะมีความสุขมากถ้าเกิดสึนามิขึ้นจริงๆ แต่ถ้าพลิกไปดูปูมหลังคนเหล่านี้ก่อนหน้าเกิดสึนามิ ก็ไม่เคยทำนายเอาไว้ แต่หลังเกิดสึนามิแล้ว ก็ถือเอาหายนะของมนุษยชาติมาเป็นคำทำนายคล้ายจะสาปแช่งให้เกิดเรื่องร้ายๆ นับเป็นบุคคลที่มีจิตใจอันน่ารังเกียจมาก

               กรรมใดใครก่อไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น กรรมที่ก่อให้เกิดการตายเป็นหมู่มากนี้ ได้เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน ตัวอย่าง เช่น อดีตชาติของ อหิงสะกะ หรือองคุลิมาล ที่เกิดเป็นควายถึก ถูกชาวบ้านพันคนรุมกันฆ่าตาย เกิดอาฆาตตามฆ่าล้างแค้นให้ตายเกือบหมดทั้งพัน มาได้พระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดก่อนจะฆ่าแม่ตัวเอง ศากยะวงศ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ถูกสังหารหมู่โดยวิฑูฑกะ จากผลกรรมที่เคยไปวางยาเบื่อปลา แม้นางขุชชุตตราเสียชีวิตลงพร้อมๆ กับนางสามาวดีและนางรับใช้คนอื่นๆ ภายในปราสาทที่ถูกวางเพลิงจากฝีมือของนางมาคันทิยา  มเหสีอีกพระองค์หนึ่งของพระเจ้าอุเทนนั้น ก็ด้วยผลกรรมที่คนทั้งหมดเคยวางเพลิงเผาพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เข้านิโรธสมาบัติ

               กฎของกรรมนั้น ถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าให้ต้องถึงพร้อมด้วยเวลา พร้อมด้วยบุคคล พร้อมด้วยกรรมชั่วที่เคยเกี่ยวโยงถึงกัน กรรมอันซับซ้อนโยงใยกันนี้ก็จะปรากฏให้เกิดมหัตภัยจนต้องวายชนม์กันทั้งสิ้น หนีไม่พ้น ใครก็ช่วยไม่ได้ นี่เองที่เรียกว่า กรรมใครกรรมมัน แล้วกรรมใดที่คนเหล่านั้นได้กระทำลงไป? ก็ให้รู้ขึ้นมาว่า กรรมจากการก่อสงครามเข่นฆ่าผู้อื่น ให้น้ำจากเขื่อนไหลเข้าถล่มจนศัตรูล้มตายกันเป็นจำนวนมาก ชัยชนะของกองทัพครั้งนั้น โห่ร้องดีใจที่เห็นข้าศึกนับแสนต้องจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตา รวมทั้งชาวบ้าน เด็กเล็ก ล้วนตายสิ้น ถ้ากฎแห่งกรรมเที่ยงธรรมแล้ว ทำไมข้าพเจ้าจึงยังรอดชีวิตอยู่ กรรมชั่วแม้ส่งผลกรรมดีก็ย่อมมีผลด้วยเช่นกัน ผลกรรมจากการเจริญกรรมฐานนี้มีอานิสงส์มาก ช่วยให้ยืดระยะเวลาการตายออกไปได้ก็จริง แต่การจะไม่ต้องรับกรรมนั้น ไม่มี ชีวิตของผู้รอด ก็ได้รับทุกขเวทนาต่างๆนานัปการเช่นกัน เพียงแต่ได้รับโอกาสที่จะทำคุณสืบต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง หากแต่หลงระเริง ประมาทเมื่อใด ผลกรรมกรรมที่เหมือนเสือร้ายก็จะตามขยุ้มกินให้ย่อยยับไปเช่นกัน หนีไม่ทันก็จบ ได้มีโอกาสพบเห็นเรื่องพวกนี้แล้วก็ให้นึกสลดใจกับสรรพชีวิตทั้งหลายที่เกิดมา ทุกชีวิตที่เกิดมาหนีไม่พ้นต้องสร้างกรรมชั่วด้วยกันทุกๆชีวิต จะมากบ้างน้อยบ้าง ความดีนั้นก็สร้างได้ยาก จะได้เกิดมาพบเนื้อนาบุญในบวรพระพุทธศาสนาก็ยากเย็นแสนเข็ญ เกิดมาแล้ว ได้พบแล้ว จะมีสัมมาฑิฐิ ให้เข้าถึงในพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็เป็นเรื่องยากแสนยาก มัวหลงระเริงกับการแข่งขันแก่งแย่งทางโลก เพื่อความร่ำรวย เพื่อชื่อเสียง เกียรติยศ อำนาจ จนในที่สุดก็หลงทางธรรม เมื่อผลกรรมตามทัน ก็ร้องดิ้นรนโหยหวน หาใครต่อใครมาช่วย ซึ่งก็มักจะไม่ทันการ วันนี้มีกำลังวังชา มีลมหายใจ มีโอกาสที่จะสร้างบุญกุศลทำความดีได้ ทำเถอะ อย่าให้คำว่าไม่มีเวลา มาขัดขวางการทำความดี ..... หยุดอ่านตรงนี้ นึกถึงพระพุทธรูปไว้ในใจ จับลมหายใจเข้าว่า พุท หายใจออกว่า โธ สัก 10 ครั้ง ทำได้ตอนนี้เลย...ทำเดี๋ยวนี้ก็ดีเดี๋ยวนี้ อย่ารอให้ถึงลมหายใจสุดท้ายแล้วค่อยคิดจะทำ มันไม่ทันแล้ว

               ให้ระลึกเอาไว้เสมอกว่าคนเราทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายอย่างแน่นอน ชาตินี้มีจริง ชาติหน้าก็มีจริง บุญบาปมีอยู่จริง ถ้าต้องตายลงเวลานี้ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นหลัก เราทิ้งทุกอย่างได้ แต่จะไม่ทิ้งพระพุทโธ จะภัยพิบัติเมื่อไหร่อย่างไรก็ตาม อย่างไรเสียเราก็ต้องตาย คนที่ทำนายภัยพิบัติว่าจะเกิดขึ้น ก็ตายไปก่อนหน้าจะมีภัยพิบัติหลายคนแล้ว ภัยพิบัติที่หลายๆคนหวาดกลัวนั้น มันไม่ใช่ภัยพิบัติที่แท้จริงเลยและก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่อย่างใด ภัยพิบัติที่น่ากลัวที่แท้จริงนั้นคือภัยในวัฏฏะสงสารต่างหาก ที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายต้องเวียนมาพบกับทุกขเวทนานับล้านล้านชาติไม่จบไม่สิ้นเสียที เป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่ควรจะสังวร การจะหนีให้พ้นจากภัยพิบัติที่ร้ายแรงนี้ ก็ด้วยอาศัย ศีล สมาธิ ปัญญา ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ดีแล้ว เป็นทางเดียวที่จะพ้นภัยได้ หนทางอื่นไม่มี...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้