คาถาพระยายม


คาถาพระยายม


          ตั้งนะโม 3 จบ ขอบารมีองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นประธาน อริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤษี ท้าวมหาราชทั้ง๔ และพระยายมราช จากนั้นก็บริกรรมคำว่า นะโมพุทธายะ เป่าลงไปที่หัวของผู้ป่วยเบาๆ(ไม่ต้องเป่าแรง เดี๋ยวน้ำลายกระเด็น) ระวังอย่าให้ใครเห็น เดี๋ยวเขาจะหาว่าบ้า จับไปกักตัวที่แผนกจิตเวช เป่าไม่ได้ก็ใช้วิธีกำหนดจิตเอาก็พอกล้อมแกล้มไปได้เหมือนกัน

          เฮียแช เป็นเพื่อนพีชายผมเอง เป็นคนดีคนนึง สนใจในพระพุทธศาสนา มีใจรักในการทำบุญสุนทาน เป็นคนสุภาพ อารมณ์ดี ขี้เล่น ตอนที่ผมกับพี่ชายบวช ก็ชวนเฮียแชมาบวชด้วย แกว่าไม่ว่างเลย งานไม่มีคนช่วยดูแล ผลัดไปเรื่อยๆ จนผมกับพี่ชายสึกออกมาแล้ว แกก็ยังไม่ได้บวช แล้วก็เกิดต้องหมั้นกับสาว หลังจากหมั้นได้ไม่กี่วัน มอเตอร์ไซด์ก็ไปล้ม เพราะขี่ไปเจอถนนที่ต่างระดับกันทำให้ล้อพลิก มอเตอร์ไซด์ไม่เป็นไรมาก แต่ตัวเองกระเด็นเข้าไปใต้ล้อหน้าซ้ายของรถเมล์ ท้องโดนล้อทับแล้วครูดไปกับถนน กระเพาะปัสสาวะแตก ไส้แตกทะลักออกทางทวารหนัก ทวารหนักฉีกขาด กระดูกสะโพกแตก หนังหน้าท้องฉีกเปิด ขนาดว่าใส่เสื้อแจ๊คเกตไป2ชั้น อาการน่าจะตายได้แล้วนะครับ แต่ว่ามีสตางค์ก็ไม่ตายง่ายๆ หมอผ่าตัดแล้วล้างๆไส้ยัดใส่กลับเข้าไป อุจจาระ ปัสสาวะ ก็ต่อสายยางออกมาใส่ถุงผูกไว้ข้างเตียง นอนร้องทรมานปางตายแต่ว่าไม่ตาย เสียร้องปวดจนอยากจะตายไปเสียดีกว่า เตี่ยกับแม่แกน่าสงสาร เป็นห่วงลูกมาก มีการจับกลุ่มนินทากันว่า ผู้หญิงมีดวงกินผัวหรือเปล่า แค่หมั้นได้วันเดียว วันรุ่งขึ้นเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว นอนอยู่ โรงพยาบาล 4 เดือนกว่าจะรอดออกมาได้ราวปาฏิหาริย์

          ด้วยความที่สนิทสนมกันกับที่บ้านผม จึงต้องได้ไปนอนเฝ้าไข้ คืนนั้นก็เหมือนทุกคืน แกร้องปวดทรมานมาก หนาวสั่น ทั้งที่แอร์ก็ไม่ได้เย็นอะไร ถุงน้ำร้อนก็ไม่มี แต่ไม่เป็นไรครับ ผมจำได้ว่า เอาขวดแม่โขงมาใส่น้ำร้อนแล้วเอาผ้าพันเอาไว้ก็ใช้แทนถุงน้ำร้อนได้ ความรู้รอบตัวเรามีพอสมควร ใส่น้ำร้อนกดจากกระติกไป3/4ของขวด เอาผ้าขนหนูห่อ ให้เฮียแชเอาไปกอด ก็อุ่นขึ้น ดูโอเคล่ะ ฝาขวดก็ไม่กล้าปิดแน่นมากเดี๋ยวความร้อนจะดันขวดแตก สักพักเฮียแชเกิดขยับตัว ฝาจุกขวดน้ำหลุด น้ำร้อนไหลออกมา เสียงร้องเปลี่ยนจากหนาวเป็นร้อน โอ๊ยๆๆๆ...ร้อน...แหม ก็น้ำร้อนลวกนี่หว่า เป็นไงล่ะ บ่นหนาวดีนัก อิอิอิ...เปลี่ยนผ้า เอาขวดน้ำร้อนออก ทีนี้ไม่บ่นหนาวอีกแล้ว บ่นแต่ปวด ทรมาน อยากตาย (ก่อนหน้านี้สิ อยากแต่จะมีเมีย)

          คืนนี้ก็ต้องขออาศัยคาถาพระยายม คาถานี้ช่วยบรรเทาทุกขเวทนาทางกายได้ แต่ว่าช่วยให้ไม่ตายไม่ได้ เวลาจะใช้คาถาอะไรก็ต้องรู้ว่าเป็นคาถาของใคร เพราะจะได้ขออนุญาตใช้ เหมือนกับการบอกเจ้าของคาถาให้มาช่วยสงเคราะห์ให้คาถานี้สัมฤทธิ์ผลด้วย ไม่ใช่จู่ๆสุ่มสี่สุ่มแปดนึกจะสวดจะท่องก็ลุยเลย แบบนี้ไม่ดีครับ ผิดมารยาท ทั้งที่จริงแล้วผมก็เป็นคนไม่ได้มีมารยาทสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังเกรงใจครูบาอาจารย์ ผมเลยอารธนาบารมีหมดเลยอย่างข้างต้น แล้วก็เอามือแตะหัวเฮียแช เป่าเบาๆ เวลาเป่าก็ทำจิตเป็นสมาธิ เห็นพระท่านอยู่บนหัว ครูบาอาจารย์ท่านมากันครบ พรหมเทวดาท่านก็มาอยู่เต็มอากาศ เป่าลงไปก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราเป่าเองหรอกครับ นึกว่าเป็นครูบาอาจารย์ท่านมาเป่าให้ แล้วผมก็แค่สื่อกลางเท่านั้นเอง จากนั้นก็กลับไปนั่งที่โซฟา นั่งบริกรรม นะโมพุทธายะ ไปเรื่อยๆ เฮียแชก็ค่อยๆหลับไป เมื่อเห็นว่าหลับสบายไปแล้วก็เอาจิตน้อมไปสื่อถึงจิตของเฮียแช จะเรียกว่าไงดี เหมือนกระแสจิตเราไปจรดเอาไว้ที่จิตของเฮียแช ว่าถ้าแกรู้สึกตัว คิด นึก เจ็บปวด มีอาการอะไร เราจะรู้ทุกอย่างเหมือนอย่างที่เฮียแชแกจะรู้ แล้วก็เข้าสมาธิหลับไป พอเวลาเฮียแชแกพลิกตัว ผมจะรู้สึกตัวไปด้วยแล้วจะลุกขึ้นมาดู แกรู้สึกตัวตอนไหนผมจะรู้สึกตัวตื่นพร้อมๆกัน น้ำเกลือจะหมดก็รู้ก่อน กดออดเรียกพยาบาลเข้ามาเปลี่ยนได้ทัน จนเฮียแชสงสัยว่าผมเฝ้าตลอดไม่ได้หลับเลยหรือไง จริงๆแล้วก็หลับนะครับ จะตื่นมาก็เฉพาะเวลาที่เฮียแชแกรู้สึกตัวเท่านั้นเองครับ

          คืนนั้นก็ผ่านไปด้วยดี เป็นการพิสูจน์การใช้คาถาพระยายมในวาระแรก ซึ่งปกติจะไม่ค่อยได้ใช้หรอกครับ ผมกลัวว่าผมมันคนเสื่อมคนซวย เกิดใช้คาถาแล้วไม่ได้ผลขึ้นมาจะทำให้คาถาที่ครูบาอาจารย์ให้ไว้พลอยเสียชื่อเสียงไปด้วย อะไรช่วยตัวเองได้ก็หาทางช่วยตัวเองไปก่อนดีกว่า นานๆจะใช้สักทีก็เพื่อประโยชน์ของผู้อื่นไม่ใช่เพื่อตัวเอง และก็ใช้คาถาด้วยความเคารพ ก็เคารพหลวงพ่อฤษีมากๆ จริงๆแล้วกลัวโดนด่ามากกว่า การใช้คาถาวาระแรกก็ได้ผลเป็นไปตามที่หลวงพ่อเคยกล่าวไว้ หลังจากที่ผมไม่ได้ไปเฝ้าอาการปวดร้องทรมานก็ยังคงมีต่อไปทุกคืน นอนโรงพยาบาล 4 เดือน นอนได้ ไม่ห่วงงานว่ายุ่ง ไม่มีใครดูแล แต่บอกให้บวช15วัน ไม่ว่าง ไม่มีเวลา เป็นไงล่ะ หลังออกจากโรงพยาบาล รีบไปบวช บวชได้ 10 วัน รีบสึก มาแต่งเมีย เฮ้อ...ไอ้ที่บอกว่าอยากตายๆ ตอนนี้ไม่ล่ะ...เจอหน้ากันเฮียแกก็หัวเราะแหะๆๆๆ....

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้