สัมภเวสี 2



บุพกรรมและเหตุแห่งสัมภเวสี



                สัมภเวสีคือผีที่ตายก่อนจะหมดอายุขัย มีเหตุจากผลของการปาณาติบาตมาก่อน จะมากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่คนนั้นๆ ตรงนี้มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่คือ อารมณ์จิตในขณะที่ก่อเหตุ ถ้าจิตมีเจตนาแรงกล้า อำมหิตโหดร้าย ผลกรรมก็รุนแรง รวดเร็ว ต่อเนื่องยาวนาน บุคคลผู้ได้รับผลจากการฆ่า ถ้าบุคคลนั้นมีกรรมสืบเนื่องกันมาก่อนในอดีต เป็นบุคคลผู้กระทำการหยาบช้าชั่วร้าย เป็นผู้ถึงฆาตต้องได้รับผลกรรมอยู่แล้ว อันนี้ก็จะเกิดผลน้อยกว่าการฆ่าผู้ทรงศีล ผู้ใจบุญ นอกจากนี้ก็คือจำนวนครั้งที่ฆ่า หรือว่าความถี่ในการทำชั่ว ซึ่งแน่นอนว่าทำชั่วบ่อยๆย่อมได้รับผลชั่วมากกว่าคนที่ทำชั่วเพียงครั้งเดียวแล้วสำนึกผิด การเป็นผู้มีบุญที่ทำมาดี ตรงนี้เกิดจากคนที่ปาณาติบาตเป็นผู้ทำบุญมามาก ทำบุญอยู่เนืองๆการปาณาติบาตโดยเจตนามีน้อยครั้ง รู้สำนึกผิดและไม่กระทำต่อ แบบนี้กรรมของการปาณาติบาตก็น้อยลง การต้องฆ่าศัตรูอันเนื่องจากหน้าที่ของการปกป้องประเทศความผิดและบาปกรรมจากปาณาติบาตก็ต้องได้รับแต่ก็ไม่ได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยซึ่งก็แตกต่างกันไปในแต่ละคนว่า เมื่อรบกันฆ่าศัตรู หากทำลงไปด้วยความอาฆาตโกรธแค้น ผลก็อย่างหนึ่ง หากทำลงไปเพราะหน้าที่บังคับ เราต่างคนต่างก็ไม่รู้จักกันมาก่อนจู่ๆจะต้องมาฆ่ากัน ก็น่าสงสาร หากไม่เกิดภาวะสงครามก็คงไม่คิดฆ่ากัน แบบนี้โทษก็น้อยลง สังเกตว่าทั้งหลายทั้งปวงนี้ เริ่มต้นจากจิตใจของผู้กระทำก่อนเป็นสำคัญ หรือเรียกอีกว่าหนึ่งว่า เจตนาในการฆ่า 

                ผลของบาปที่เกิดจากการฆ่านี้ ตายไปก็ต้องตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาช้านาน ต่อจากนั้นยังต้องมาเกิดเป็นเปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ก่อนจะมาเกิดเป็นคนนั้น เมื่อเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ยังต้องผ่านการแท้งตายในท้อง ตายตั้งแต่ยังเล็ก ตายตอนเป็นสัตว์หนุ่ม หรือโดนฆ่าตาย จนหมดกรรมตรงนี้แล้ว ก็มาเกิดเป็นคน ยังต้องตายตั้งแต่ในท้อง เกิดออกมาไม่นานก็ตาย ตายตอนยังเป็นเด็ก วัยรุ่น หนุ่ม วัยกลางคน คือตายก่อนวัยอันควร หรือว่าตายก่อนอายุขัยอันพึงจะมีได้ การตายก็จะตายด้วยโรคปัจจุบันบ้าง อุบัติเหตุบ้าง ฆาตกรรมบ้าง เมื่อตายลงไปจึงกลายเป็นสัมภเวสีอยู่อย่างนั้นจนสิ้นอายุขัย

                แนวทางป้องกันและแก้ไขนั้นก็มีอยู่เหมือนกันนะครับ เบื้องต้นที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการรักษาศีล เพื่อหยุดการกระทำชั่วทั้งหลายให้ได้ก่อน จากนั้นก็ต้องทำบุญ สร้างกุศลให้มาก มากเพียงใดนั้นเอาเป็นว่าอะไรเป็นบุญเป็นกุศลทำทุกอย่าง จะทำด้วยตัวเอง ใช้ให้คนอื่นทำ ร่วมกันทำกับผู้อื่น มีจิตยินดีโมทนาในบุญของท่านที่ทำ และเจริญเมตตาพรหมวิหารเอาไว้ในใจเสมอๆ ในที่สุดแล้วก็คือการภาวนา เป็นการทำลายสิ่งชั่วในดวงใจของเราให้หมดสิ้นลงไปให้จงได้ และในท้ายที่สุด ให้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าขอการทำบุญสร้างกุศลและการเจริญภาวนานี้เป็นเหตุปัจจัยให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบัน บางคนก็จะเรียกวิธีการนี้ว่าทำบุญหนีบาป บางท่านก็คิดว่านี่เป็นการขี้โกง ทำผิดแล้วไม่ยอมรับใช้กรรม หนีเหมือนผู้ร้ายหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ให้ไกลจากกฎหมายจะเอื้อมมือไปถึง แบบนี้มันก็ไม่ยุติธรรม

                กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ และไม่เคยมีใครหนีพ้นได้ เว้นเสียแต่พระอรหันต์ขีณาสพ ที่ดับขันธ์ละสังขารไปแล้ว หากยังมีธาตุขันธ์อยู่ ร่างกายนี้ก็ต้องรับกรรมกันไปเช่นกัน ก็จะขอยกตัวอย่างของชายผู้หนึ่ง ที่เกิดมาในอดีตชาติ ต้องได้จับอาวุธเข่นฆ่าอริราชศัตรูเพื่อรักษาผืนแผ่นดิน และความสงบสุข บางครั้งก็ฆ่าด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต บางครั้งก็วางแผนจนข้าศึกแพ้พ่ายตายไป ก่อกรรมทำเข็ญในโทษของปาณาติบาตไว้มาก การโกงการหักหลังก็มีเกิดขึ้นเป็นประจำ ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้วหากได้ผลประโยชน์ก็ยอมทำได้ ความเมตตาปราณีนั้นมีน้อยเหลือเกิน ด้วยความที่เป็นคนมีสติปัญญา คิดหาหนทางหนีจากความผิดความชั่วนั้น จึงได้เข้าวัดออกบวชในบั้นปลายชีวิต คิดว่าจะใช้เป็นวิธีในการหนีความชั่ว บาปกรรมที่ตนเองเคยก่อเอาไว้ ต่อเมื่อบวชเรียน ปฏิบัติธรรม ซึ่งก็เป็นไปอย่างเนิ่นช้า จนกระทั่งได้เห็นแสงสว่างทางใจว่า สิ่งที่เขาคนนี้ทำเอาไว้ ไม่ใช่แค่ชาติเดียว มันหลายชาติเหลือเกิน เกิดมาก็ต้องมีการรบพุ่งฆ่าฟันกันเป็นประจำ เห็นโทษภัย ความคิดผิดคิดชั่วของตนเอง ในที่สุดก็ได้สำนึกผิดกับบาปกรรมที่ตนเองได้เคยก่อเอาไว้ ก่อนตายจึงได้อธิษฐานจิตเอาไว้ว่า เมื่อข้าพเจ้าเกิดใหม่ขอให้ข้าพเจ้าได้ระลึกชาติ ระลึกถึงบาปกรรมที่ทำเอาไว้ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่ต้องก่อกรรมทำเข็ญให้เป็นบาปอีก หลังจากตายลงไปก็ได้ไปเกิดเป็นพรหมชั้นต้น เมื่อมองลงมาก็เห็นบาปกรรมที่ตนเองทำไว้มีมาก แม้จะทำตามหน้าที่ แต่เมื่อทำบ่อยๆเข้าแล้วก็เกิดเห็นผิตเป็นชอบบ้าง ทำลงไปด้วยความโกรธแค้นบ้าง เป็นเหตุให้เกิดบาปกรรมมากมาย การเกิดอยู่เป็นพรหมเทวดานั้น ผลกรรมชั่วยังไม่ส่งผล ต่อเมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน ผลกรรมจากการปาณาติบาตจะเข้ามากระทำทันที หากจะรอให้หมดบุญแล้วลงมาเกิด ก็คงต้องเลยไปลงนรกก่อน และทนทุกข์ทรมานในนรกอีกนับกาลเวลาแทบไม่ได้เลย แต่หากลงมาเกิดเป็นคน ย่อมต้องถูกผลของกรรมปาณาติบาตเข้าตัดรอนให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร แล้วกลายไปเป็นสัมภเวสี เว้นเสียแต่จะลงมาเกิดแล้วระลึกให้ได้ถึงบุพกรรมเก่าที่ทำมา เมื่อรู้แล้วก็ให้ละชั่ว หมั่นทำบุญทำทานสร้างกุศลเจริญภาวนา 

                หลังจากมาเกิดในชาติภพใหม่ ให้เริ่มรู้จักการฝึกกรรมฐานตั้งแต่พึ่งเริ่มจำความได้ หันหน้าเข้าวัด ทำบุญสร้างกุศลเอาไว้ แต่บาปเคราะห์ก็คอยขัดขวางการสร้างความดีทั้งหลาย ก่อเกิดโรคภัยให้เป็นโรคประจำตัวต้องทุกข์ทรมานกับสังขารนี้แต่เมื่อมีปัญญาจากการเจริญวิปัสสนาแล้วก็ได้อาศัยทุกข์ในสังขารร่างกายนี้เป็นหัวข้อพิจารณาเพื่อพัฒนาจิตใจของตนได้ ต้องพบกับการพลัดพราก อุปสรรคมากมายอย่างที่คนทั้งหลายไม่ต้องพบเจอ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ทำให้เกิดความมุมานะ อุตสาหะ เพียรพยายามให้มากยิ่งๆขึ้นไป ในที่สุดคนที่มีบาปกรรมจากปาณาติบาตมากมายนี้ ก็สามารถรอดพ้นจากการตายก่อนเวลาอันควรไปได้ ก็ต้องบอกว่าเป็นด้วยผลบุญ กุศลที่ทำกันมาอย่างเสมอๆนั้น สามารถช่วยได้จริงๆ แต่ว่าจะไม่ต้องรับผลกรรมเลยนั้น ย่อมไม่มี เหมือนตัวอย่างของหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง พระผู้มากด้วยบารมี ก็ต้องทนทุกขเวทนาจากความเจ็บป่วยชองร่างกายมาตั้งแต่หนุ่มๆ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ต้องโดนใส่ร้าย กลั่นแกล้ง ให้ร้าย ลอบประทุษร้ายอยู่เนืองๆ แต่ว่าด้วยกำลังใจอันเข้มแข็ง ก็สามารถภาวนาจนหมดสิ้นกิเลส ตัณหา อาสวะ ลงไปจนหมดสิ้นได้ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป ผลกรรมทั้งหลายที่เคยทำมา อันอยู่คู่กับโลกนี้เท่านั้น ก็จะคงอยู่ในโลกนี้ต่อไป แต่จะไม่ตามไปยังผู้ที่ละจากโลกทั้งสามนี้ได้อีกแล้ว 

                แล้วก็มักจะมีผู้สงสัยว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วกรรมจากการปาณาติบาตของท่านที่เข้าพระนิพพานไปแล้วนั้น เจ้ากรรมนายเวรมากมายจะไปคิดบัญชีกับใคร? แล้วกรรมเหล่านั้นจะไปตกกับผู้ใด ที่ใด ได้บ้าง เรื่องน่าสงสัยแบบนี้มีหรือที่ผมจะไม่สงสัยด้วย ก็ต้องไปลองถามเอากับเจ้ากรรมนายเวรที่ตามคิดบัญชีกับหลวงพ่อท่านเอาไว้ เจ้ากรรมนายเวรแกก็ตอบง่ายมาก ก็ในเมื่อผู้ที่จะตามคิดบัญชีนั้นสาบสูญไปแล้วก็คิดบัญชีไม่ได้ แต่ว่าอย่าลืมนะ เจ้ากรรมนายเวรตนนึงไม่ได้มีบัญชีที่ต้องคนเพียงแต่ลำพังหนึ่งคนเท่านั้น แล้วก็หันมาชี้หน้าว่า หัวหน้าใหญ่เอ็งไปแล้ว พวกเอ็งลูกสมุนที่เคยเข่นฆ่ากันมายังอยู่ พวกข้ายังมีบัญชีให้ต้องคิดกับพวกเอ็งอีกเยอะ อันนี้ก็ซวยเลยครับ งานเข้าทันที รู้งี้ไม่น่าไปถามให้เกิดเรื่องป่าวๆ สมัยที่ตามหลวงพ่อออกรบ พวกลูกสมุนอย่างเราๆก็ต้องตามเข่นฆ่าไม่ยั้ง หัวหน้าสั่งลุย จะไปแอบหลังต้นไม้มันก็ไม่ได้ ไล่เข่นฆ่า เลือดนองพื้น ฟันหัวขาดบ้าง แทงท้องไส้แตกบ้าง ฟันแขนขาด ขาขาดบ้าง มันมีหมด ลูกสมุนทั้งหลายยังไม่ได้ไปนิพพาน ยังมีกายเนื้อ ยังไม่มีความดีในการตัดกิเลสเป็น สมุทเฉทประหาร พวกนี้ถ้ายั้งตัวจากการทำบุญสร้างกุศลเมื่อไหร่ ผมว่าเละแน่นอน ทุกขเวทนาทางกาย โรคภัยต่างๆ มันจะรุมกินโต๊ะ ไม่ตายแต่เลี้ยงไม่โต มันเล่นกันเอาท้อแท้ได้ก็แล้วกัน ผมเห็นหลายๆคนนั่งคอตก น้ำตาไหล คิดฆ่าตัวตายก็มี หลายคนก็เป็นโรคร้ายตายก่อนเวลาอันควรบ้าง อุบัติเหตุบ้าง ตายไปก็ไปเป็นสัมภเวสี เว้นเสียแต่ว่าผู้นั้นทำตามคำสั่งสอนหลวงพ่อ พวกนี้รอดได้เหมือนกัน เท่าที่จำจากหลวงพ่อมาได้ ท่านสั่งเอาไว้ว่า ให้รักษาศีล๕ กรรมบถ๑๐ ให้มีพรหมวิหาร๔ ให้บำเพ็ญบารมี๑๐ให้มีจรณะ๑๕ และให้ละสังโยชน์ ๓ ข้อต้นให้ได้ คือ สักกายฑิฐิ วิจิกิจฉา สีลพตปรามาส สุดท้ายก็ให้นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถ้าทำได้ตามนี้แม้หลวงพ่อไม่ต้องรับรอง ท่านทั้งหลายก็คงรับรองตัวเองได้แหละนะว่าไม่ตายก่อนอายุขัย และไม่ต้องลงอเวจีมหานรก เพราะการเป็นสัมภเวสีนี้ไม่สนุกนัก ดังนั้นถ้าไม่ต้องการตายก่อนวัยอันควร ก็ต้องพยายามเอาคำสอนหลวงพ่อมาปฏิบัติ ทำทั้งหมดทีเดียวไม่ไหว ก็ค่อยๆทำทีละอย่าง ทีละข้อก็ได้ หรือจะทำเป็นช่วงเวลาในแต่ละวันก็ยังเอา ขอให้เพียรพยายาม เพราะหากท่านไม่เพียรพยายามเสียตั้งแต่วันนี้ ปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ ถึงวันนั้นขึ้นมา ผมรับรองว่า มันจะไม่ทันการณ์แล้วท่านจะมานั่งเสียใจ จะหวังให้ใครมาช่วยก็ยากเต็มทีครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้