บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2017

หลุมดำหรือโลกมืด ตอนที่1

หลุมดำและความระยำของข้าฯ                 เอามาเล่าเป็นนิทานขี้โม้เอาไว้ เพราะเห็นว่ามันแปลกประหลาดดี แต่ว่าอยู่ที่ไหนก็ขอไม่บอก เพราะเป็นอันตรายสำหรับนักปฏิบัติกรรมฐานผู้ใหม่อยู่  ผู้เก่าแล้วก็ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวด้วย เว้นเสียแต่ว่าเคยมีส่วนได้เกี่ยวข้องกันมาปางแต่ก่อนก็จะได้แวะเวียนมาดูให้พอรู้บ้างก็เท่านั้นเอง                 กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานสักเท่าไร นั่งทำสมาธิพอใจสบายๆ ไม่ได้ต้องการจะไปไหนอย่างไรเลย ก็ปรากฏว่าตัวเองไปอยู่ในที่แห่งหนึ่ง สถานที่นั้นมืดสนิท มองไม่เห็นแม้แต่เล็บมือของตัวเอง บรรยากาศก็เย็นเยียบ สัมผัสได้ว่ามีดวงจิตจำนวนมากอยู่ที่นั่น แม้ไม่ทุกข์ทรมานเหมือนในนรกที่เคยไปมา แต่ก็ไม่ได้มีความสุขอะไรนัก สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่หลากหลาย จากดวงจิตต่างๆ แต่เป็นพลังอำนาจด้านชั่วร้ายที่อำมหิต ติดอยู่ในโลกมืดนี้มาช้านาน หันมองไปทางไหนก็มืดไปหมด หาจุดสว่างแม้แต่จุดเดียวไม่ได้เลย และแน่นอนว่า มันหาทางออกจากโลกมืดนี้ก็ไม่ได้เสียด้วย เป็นแรงดึงดูดให้หมุนวนอยู่ในนั้นชั่วกัลป์สาน                 พุทโธอัปมาโน คุณของพระผู้มีพระภาคเจ้าหาที่สุดที่ประมาณมิได้ ด้วยอำนาจแห

ผีกะหรือผีปอบ ตอนที่2

ผีปอบหรือผีกะ ตอนที่ 2                 ก็ขอให้ถือว่าเป็นนิทานขี้โม้ โม้เอาสนุกสนานเพลิดเพลิน อย่าไปถือเป็นจริงจัง เป็นเรื่องเล่าไร้สาระเป็นหลัก                 เรื่องการตายการเกิด เวียนว่ายกันไปนั้น มีมานานนับอสงไขยกัลป์นับไม่ถ้วน เรื่องจะไปเกิดในภพภูมิไหน หรือไปติดอยู่ในภพภูมิใดเป็นเวลานานๆนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นเดียวกับพวกที่ตายไปแล้ว ไปเกิดอยู่ภายใต้อำนาจของ ผีกะตัวพ่อ ทำให้ไปเกิดใหม่ก็ไม่ได้ ติดอยู่กับคำสัญญาสาบานแบบนี้ไป นานแสนนาน วิญญาณพวกนี้กลับไปเกิดเป็นคนหรือเป็นสัตว์ได้ก็ต้องได้รับอนุญาตจากผีกะที่เป็นเจ้าของคำสาบานนั้นๆจะปล่อยไป การจะไปทำลายอาถรรพ์พวกนี้ เกจิอาจารย์ท่านทำได้ แต่ว่าอาจจะเหลือน้อยรูปที่ท่านจะทำให้ได้ อีกทางหนึ่งคือทำลายผีกะตนนั้นเสีย คำสาบานอาถรรพ์ต่างๆก็จะหายไปได้เอง วิธีทำลายก็มีอยู่แต่คงไม่เล่าจะดีกว่า เรื่องทำบุญอุทิศไปให้ หรือแผ่เมตตาอะไรไปให้พวกนี้ยอม ก็บอกเลยว่ายาก พวกนี้ดำมืดในจิตใจ ไม่สนบุญบาป แผ่ไปแผ่มาพวกหมั่นไส้ ทุบเอาให้อีกก็มี                 การสืบทอดเชื้อสายของพวกนี้ ก็ไม่พ้นเรื่องกฎของกรรม คือมีกรรมร่วมกันมาจึงต้องมาเกิดในวงศ์

ผีกะยักษ์หรือผีปอบ?

รูปภาพ
ผีปอบหรือผีกะ                 ปกติผมเป็นคนกลัวผีมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ไม่ค่อยชอบยุ่งกับผีสางคางแดงสักเท่าไร จะมีจริงไม่มีจริงก็ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ว่าในสมาธิแล้วก็จะรู้สึกเฉย ไม่ได้กลัว แล้วก็ไม่ได้กล้า ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับผี หรือไม่ผี มันก็มีค่าไม่ต่างกัน สักแต่ว่าสมมติด้วยกันทั้งนั้น ไม่ได้พ้นทุกข์อะไร ยังคงมีความทุกข์เสมอกัน                 มันก็แปลกดีนะครับ สมัยที่อยากเห็นก็ไม่เห็นหรอก พอไม่ได้อยากเห็นแล้วก็กลับมาเห็น เห็นตอนไม่อยากเห็นแล้วมันก็เลยเฉยๆไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่เห็นว่ามีบางอย่างที่แปลกๆดี ก็เอามาโม้เอาไว้ในนิทานขี้โม้ เผื่อว่าจะมีใครบ้าตามกระผมไปด้วย                 ทางภาคเหนือเรียกว่าผีกะ ทางภาคอีสานเรียกว่าผีปอบ ภาคใต้ผีมโนรา ผีครู ก็คล้ายๆกัน พวกนี้ต้องมีการเซ่นสรวงกันทุกๆปีเป็นประจำ เซ่นด้วยของดิบๆ เนื้อดิบ เลือดสด บางที่ก็กำหนดให้มีการเซ่นทุกๆ3ปี ถ้าไม่เซ่นสรวง ก็จะถูกสิง ถูกกินเครื่องในอวัยวะ แล้วกลายมาเป็นมะเร็งบ้าง ปวดท้องบิดมวน แล้วก็ตาย ด้วยโรคบิดบ้าง หัวใจวายบ้าง ถ้ากินที่ตับก็เป็นมะเร็งตับ กินไส้ก็เป็นมะเร็งลำไส้ ปวดท้องบิดมวน กินหั

ร่างแฝง

รูปภาพ
ร่างแฝงหลวงปู่ทวด                 เมื่อภรรยาของลูกน้อง มาขอคำปรึกษาว่าจะเอาไงดี หลวงปู่ทวดท่านจะมาอยู่ด้วย บอกว่าต้องนุ่งขาวห่มขาว ถือศีล8 กินเจ ทุกวันพระ ให้ครบ 49 วัน ตัวลูกน้องเองเป็นคนใต้ ปกติไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่เจอแม่ยายนอนพับเอาหลังหัวแตะส้นเท้าได้ ก็เริ่มไม่สบายใจ กลางคืนแม่ยายลุกมามีเรี่ยวแรงกระฉับกระเฉง แต่กลางวันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมาก จนแม่ยายตาย ภรรยาก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ เลยมาขอคำปรึกษาว่า เอาไงดี?                 อยากจะบอกว่าหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ทรงคุณสูงมาก ท่านไม่มาเข้าสิงผู้หญิงหรอกครับ ผู้ชายก็ไม่เข้าด้วย ที่เคยเห็นมาคือ หลวงปู่ทิม อาจารย์นอง ก็เป็นลักษณะผ่านญาณ คือหลวงพ่อทวด ท่านจะมาลอยอยู่เหนือหัว แล้วแผ่กำลังญาณลงมาควบคุมโดยไม่ได้เข้ามาครอบงำอะไรใดๆ                 ปกติของนักปฏิบัติภาวนา จะมีการทรงฌานอยู่เป็นปกติ จะเป็นฌานเตี้ยๆบ้างก็ขึ้นกับกำลังของแต่ละท่านที่ฝึกฝนกันมา เมื่อฌานมีการทรงตัวได้ก็ต้องอาศัยจับภาพพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ย่อมจะได้พบเห็นครูบาอาจารย์อยู่เป็นปกติ พรหมเทวดาท่านก็จะมาปรากฏอยู่โดยรอบ เรื่องแบบนี้สำหรับนักปฏ

พญาครุฑ ตอนที่2

รูปภาพ
พญาครุฑ (ตอนที่2)                 จากลานกว้าง ซึ่งอยู่ค่อนๆไปทางจะยอดเขานั้น ท่านพญาครุฑก็พอเดินเข้าไปที่ปากถ้ำ มีขนาดกว้างใหญ่มาก มีแสงสว่างจ้า ออกมาถึงปากถ้ำ เดินเข้าไปก็จะเห็น พระพุทธรูป ปางสีหไสยาสตร์ หันพระพักต์ออกมาทางหน้าถ้ำ พระศกมีสีดำ ส่วนองค์ทั้งองค์เป็นทองคำเหลืองอร่ามสว่างไสว องค์ใหญ่มาก เมื่อเข้าไปใกล้ๆ ความสูงเราอยู่เพียงไม่ถึงกึ่งกลางพระโอษฐ์ขององค์พระพุทธรูป ใจก็นึกสงสัยว่าทำไมต้องเป็นพระพุทธรูปปางสีหไสยาสตร์ ก็ทราบว่า มีความเกี่ยวข้องกับพระราหู ทราบเพียงเท่านี้ แต่ว่าจะเกี่ยวข้องกันอย่างไร ก็ไม่ได้ถามต่อ เป็นอันว่า อยากทราบว่า ทำบุญอย่างไรจะได้มาเกิดเป็นพญาครุฑ                 เรื่องบุพเพนิวาสนุสติญาณ ก็ต้องกราบทูลถามพระ ถามหลวงพ่อ ก็ทราบว่า ครุฑพวกนี้ เมื่อครั้งยังเกิดเป็นมนุษย์ ในสมัยที่พระพุทธศาสนายังดำรงอยู่นั้น เป็นผู้สนใจในการเข้าวัดทำบุญ มีจิตปรารถนาในด้านฤทธิ์ เป็นคนมีความจริงจัง เคร่งครัด รักในพระพุทธศาสนา มีความหวงแหน เวลามีเทศกาลงานบุญใดๆท่านเหล่านี้เต็มใจไปร่วมด้วย แต่ด้วยความเป็นคนจริงจังเคร่งครัด พอเห็นใครทำกริยาไม่ถูกต้องไม่สมควรจะเข้าไปดุไปว่

พญาครุฑ ตอนที่1

พญาครุฑ                 ตามตำนานที่เคยอ่านกันมา พญาครุฑที่ไปฉกน้ำอำมฤตมีอยู่ตนเดียว สู้แพ้พระนารายณ์จนต้องมาเป็นพาหนะให้ขี่ ก็ไม่ได้สนใจอะไรกันนัก แตกต่างจากพญานาคที่มีจำนวนมากหน้าหลายตากว่า เมื่อหลายปีก่อนก็บังเอิญได้ไปงานไหว้ครูที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านพระครูเจ้าอาวาสทำพิธี ก็มีครุฑมากระพือปีกเหนือตัวท่าน จนเสียงดังออกลำโพง มองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็เห็นครุฑอีกหลายตน บินวนไปเวียนมา ทำให้นึกสงสัยขึ้นมาว่า อ้าว...ครุฑก็มีหลายตนเหรอ? แล้วเมียครุฑ ลูกครุฑ เป็นยังไง เกิดมาจากไหน? ประสาคนช่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะขี้เกียจแล้ว การไปยุ่งเรื่องชาวบ้านไม่ใช่สาระในการปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด ใครเขาจะอะไรก็ช่างเขา ดูจิตดูใจเราดีกว่า... จนเมื่อเวลาผ่านไป การดูจิตดูใจของตนเองก็ไม่ได้จะทำให้เลวน้อยลงสักเท่าไร จึงมีโอกาสแวะเวียนไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านสักเล็กน้อย พอจะได้เอามาเล่าเป็นนิทานขี้โม้                 ปกติสำหรับพวกเราแล้วเวลาจะไปไหนมาไหนก็จะกราบพระก่อนขอบารมีองค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นประธาน ครูบาอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อ พรหมเทวดา เราก็กราบด้วยความเคารพ ขอบารมี