ทำไมผีผู้หญิงนุ่งห่มสไบ?

ผีผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นห่มสไบ ทำไม?




                หลายคนได้ยินได้ฟังมา เวลาประสบพบเจอผีผู้หญิง จะห่มสไบ พอจะไปแก้บนก็เอาชุดไทย สไบนาง ไปแขวนให้ ผมก็ให้สงสัยยิ่งนักว่าทำไมไม่ใส่ชุดอื่นๆกันบ้างเลยหรือไร จะว่าไปแล้วชุดไทยสไบนาง ก็มีใส่กันเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง ก่อนหน้าปี 2484 หญิงไทยยังไม่ใส่ผ้า นมห้อยโตงเตง มีหลักฐานภาพถ่ายของชาวต่างชาติ ว่าบ้านป่าเมืองเถื่อนยังไม่มีเสื้อใส่
                สมัยที่เตี่ยมาจากเมืองจีนใหม่ๆ เดินไปถามลุงคนนึง ตาลุงแกโกรธมาก บอกว่าไม่ใช่ลุงเว้ย ต้องเรียกป้า เตี่ยก็งงว่าถ้าเป็นผู้หญิงทำไมไม่ใส่เสื้อ ปล่อยนมห้อยโทงเทง นุ่งผ้าถุงตัวเดียว แบบนี้มันมีแต่ผู้ชายเท่านั้นแหละ ถึงจะเปลือยท่อนบนได้ วัฒนธรรมไทย และขอม หรือเขมร ก็ตาม ในอดีตผู้หญิงก็เปลือยอก ส่วนผู้หญิงสูงศักดิ์ก็จะมีผ้าคล้องคอ พาดออกมาบังนม เพียงเท่านี้ ต่างจากวัฒนธรรมจีนที่ผู้หญิงใส่เสื้อมาตั้งแต่พันปีก่อน หรือวัฒนธรรมยุโรปที่ผู้หญิงห่มผ้าปิดท่อนบนมานานนับพันปีแล้ว
                ตอนหนุ่มๆที่ไปนอนบ้านลูกน้องแล้วเจอเสาตกน้ำมัน กลางคืนตอนจะนอน ยายแก่ที่มายืนชะโงกมองหน้าผมนี่ก็นุ่งสไบแดง หลายครั้งก็เห็นแต่งชุดไทยสไบแบบนี้แหละครับ เจ้าแม่สร้อยอะไรสักอย่างที่โมโหตอนที่ผมไปฉี่รดกอไผ่ ก็จำได้ว่าใส่สไบ ชุดนี้มีมาตอนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนปลายมานี้เอง ละครไทยหลายเรื่องย้อนยุคก็เอามาใส่กัน ขณะที่บันทึกในสมัยอยุธยา สุโขทัย ก็ไม่มีว่าหญิงไทยจะนุ่งห่มสไบแต่อย่างใด ชายไทยก็นุ่งผ้าถุงบ้าง ถลกขึ้นมาเป็นโจงกะเบนบ้าง
                พอสงสัยขึ้นมาก็ค่อยๆทบทวนดูว่า เคยมีผีผู้หญิงใส่ชุดธรรมดาๆกับเขาบ้างไหม?
ก็มีสมัยที่ไปสร้างตึกอยู่ที่ มช. ตอนนั้นไปยืนดูว่าเจ้าที่เป็นใคร ต้องบวงสรวงแบบไหน ก็เห็นผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดขาว คล้ายชุดราตรียืนอยู่ อันนี้ไม่ใช่ชุดไทยสไบนาง เป็นชุดออกไปทางยุโรป แต่ว่ากระโปรงก็ไม่ได้รุ่มร่ามอะไร เธอเล่าว่าถูกรุมข่มขืนแล้วฆ่าฝังดินลึกลงไปสัก4-5เมตร เดิมคงไม่ได้ลึกขนาดนี้ แต่น่าจะมีการถมดินเพิ่มขึ้นสัก2เมตร มีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างๆตำแหน่งที่ศพเธอถูกฝัง คนนี้ก็ไม่ได้ใส่ชุดไทยสไบพาดบ่า

มีที่มายืนโบกรถตอนกลางคืน วิ่งตัดหน้ารถตอนดึกๆ ก็ไม่ได้ใส่สไบ เห็นนุ่งกางเกงยีนส์เสื้อยืดคอกลม เป็นพวกประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์บ้าง โดนข่มขืนหมกป่าข้างทางบ้าง แบบนี้น่าจะเรียกว่าสัมภเวสีมากกว่า เป็นวิญญาณที่รอให้หมดวาระกรรมแล้วค่อยไปเกิด

ส่วนผีผู้ชายที่เห็นนุ่งโจงกะเบนสีแดง ก็มีแต่ท่านที่มาพาวิญญาณคนตายไปรับโทษ เสื้อไม่ใส่ หน้าตาดุถมึงทึง ไม่ค่อยพูดค่อยจา ไม่ล้อเล่นด้วย ที่เห็นจะแต่งตัวสวยๆก็มี อาผู้ชายคนนึง ตอนวันเผาศพ เห็นแกไปยืนข้างๆเมรุ นุ่งโจงกะเบนสีน้ำเงินเลื่อมแวววาว เสื้อแขนกระบอก แบบราชปะแตน หรือชุดปกติขาว พวกนี้ชีวิตเขาเป็นอาจารย์มียศมีตำแหน่งมาก่อน เวลาตายก็คงจะติดในชุดในยศถาบรรดาศักดิ์ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้ทักหรือคุยอะไรเท่าไหร่
ผีผู้ชายส่วนมากก็เห็นนุ่งกางเกง เสื้อยืดบ้าง เสื้อเชิ้ตบ้าง ไม่ค่อยจะเห็นนุ่งโจงกะเบนมาเดินไปเดินมาหรอกนะ อย่างตอนสึนามิเข้าภาคใต้ของไทย ทั้งคนไทยคนต่างชาติ ตายกันอย่างกะทันหัน ไม่ทันตั้งตัว ตกกลางคืนก็มาเดินกันไป เดินกันมา ร้องไห้ระงม ผ่านแถวหน้าวัดเขาหลัก พวกนี้ก็นุ่งกางเกงขายาวบ้าง ขาสั้นบ้าง ใส่รองเท้าผ้าใบบ้าง เปลือยเท้าก็มี ผู้หญิงก็นุ่งกางเกง กระโปรง มีหมด ทั้งพระทั้งชาวบ้านที่มาช่วยกันเผาศพก็มองเห็นด้วยตาเปล่าๆ แต่ก็เพียงชั่วคืนสองคืนแรก หลังๆมาก็ไม่มีให้เห็นอีก ชุดที่ใส่ก็ไม่เห็นว่าจะใส่สไบอะไรกันเลยนะ ก่อนตายใส่ชุดอะไรกันตายไปแล้วก็ใส่ชุดแบบนั้น ทั้งๆที่ตอนตาย สภาพศพนี่เปลือยกายล่อนจ้อนหมด รองเท้าก็ไม่มี แต่ตอนเป็นวิญญาณ เสื้อผ้ารองเท้ายังอยู่ครบดี


                ถ้าจะให้เดาก็ขอเดาว่าผีที่นุ่งห่มสไบ น่าจะเป็นผีรุ่นเก่า ยุคเบบี้บูม ผีในยุคปัจจุบันจะไม่ใส่สไบอีกแล้ว นอกจากพวกเล่นลิเกอ่ะนะ หรือจะชอบนิยายจักรๆวงศ์ๆ ตอนมีชีวิตอยู่นุ่งห่มอะไร ย่อมมีจิตใจยึดติดในรูปแบบของเครื่องนุ่งห่มนั้นๆ เป็นทหารญี่ปุ่นตายไปก็ใส่ชุดทหารญี่ปุ่นเหมือนเดิม ส่วนคนที่พึ่งตายไปแล้วเทียวโทรหาคนโน้นคนนี้ อันนี้ก็ไม่ทราบได้เหมือนกัน ยังไม่เคยเจอกับตัวเอง ถ้าโทรหากันได้ ผมก็อยากจะโทรไปหาสตีฟจ๊อบดูเหมือนกัน ว่ามีความเห็นยังไงกับไอโฟนในช่วงที่นังคุกเป็นคนดูแล แพงแต่ไม่ค่อยมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ จะฝากจ๊อบให้โทรมาด่านังคุกให้ที ในอนาคตก็ไม่แน่เหมือนกันว่า คนกับผีอาจจะสื่อสารกันได้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ปรับคลื่นความถี่ให้จูนหากันได้  ถึงเวลานั้นขึ้นมาคงได้สนุกสนานวุ่นวายกันล่ะนะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาสตราวุธในโลกวิญญาณ

กรรมมันหนีไม่ได้หรอก

บทนำ นิทานขี้โม้